WORLD : เด็กชาวปาเลสไตน์ผู้กล้าหาญยืนหยัดต่อสู้กับกองกำลังยึดครองของอิสราเอลที่ติดอาวุธหนักที่ทางเข้…
WORLD : ผิดคาด ซาอุฯ ตัดสินจำคุกชาวปาเลสไตน์ 24 คน รวมถึงผู้แทนหะมาสในซาอุฯ
เมื่อวันอาทิตย์ (8 ส.ค. 64) ศาลซาอุดิอาระเบียได้พิพากษาจำคุก 15 ปี นายริยาฎ มุฮัมมัด อัลคุดะรี ผู้แทนหะมาสประจำซาอุฯ ส่วนฮานี ลูกชายของริยาฎถูกพิพากษาจำคุก 3 ปี และชาวปาเลสไตน์อีก 22 คนถูกพิพากษาจำคุก 5-25 ปี
ชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยในราชอาณาจักรถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานสนับสนุนกลุ่มต่อต้านอิสราเอลของชาวปาเลสไตน์รวมถึงขบวนการหะมาส
แหล่งข่าวระบุว่าก่อนหน้านี้ผู้ต้องขังเหล่านี้ถูกขังอยู่ในเรือนจำต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร และถูกนำตัวมายังริยาฎเพื่อรับฟังคำตัดสินของศาลซึ่งเริ่มต้นในวันอาทิตย์
มะห์มูด อัซซอฮิร สมาชิกสำนักการเมืองของหะมาสในฉนวนกาซากล่าวว่า “คำตัดสินดังกล่าวเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง และเป็นไปตามคำสั่งของไซออนิสต์”
เขาตั้งคำถามว่า “หากชาวซาอุฯ ได้บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ที่สมควรได้รับในปาเลสไตน์ กรณีเช่นนี้จะถือว่าเป็นอาชญากรรมต่อซาอุดิอาระเบียหรือไม่?”
ด้านองค์การอาหรับเพื่อสิทธิมนุษยชนซึ่งมีฐานอยู่ในสหราชอาณาจักร (AOHR UK) ได้ประณามการตัดสินดังกล่าวของศาลในกรุงริยาฎโดยกล่าวว่า “โทษจำคุกเหล่านี้ที่เกิดจากการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ เป็นส่วนหนึ่งของคดีต่าง ๆ ของชาวปาเลสไตน์และจอร์แดนรวม 69 คนในการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรมและเป็นเรื่องการเมืองที่ขาดมาตรฐานขั้นต่ำของการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม
(AOHR UK) เน้นว่าการพิจารณาคดีดังกล่าวเป็นการสนับสนุนการปิดล้อมอย่างเข้มงวดต่อชาวปาเลสไตน์และมุ่งเป้าไปที่การยุติสาเหตุของพวกเขา
(AOHR UK) ยังชี้ว่าการพิจารณาคดีดังกล่าวขาดพื้นฐานทางกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากผู้ต้องหาทุกคนเป็นผู้อยู่อาศัยตามกฎหมายในซาอุดิอาระเบียพร้อมใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ที่ถูกต้องและพวกเขาไม่เคยละเมิดกฎหมายซาอุฯ เลยแม้แต่คนเดียว
อัลคุดะรี อายุ 82 ปี และลูกชายของเขาถูกคุมขังตั้งแต่ต้นปีค.ศ.2019 เขาป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากและจำเป็นต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์ซึ่งในทัณฑสถานไม่สามารถจัดการให้เขาได้
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมากองกำลังความมั่นคงซาอุฯ ได้บุกเข้าไปในบ้านของเขาและสอบปากคำภริยาวัย 70 ปีของเขา บีบบังคับให้เธอลงนามในเอกสารเพื่อปิดปากไม่ให้เธอพูดถึงสภาพของสามีของเธอกับสื่อมวลชนและยึดโทรศัพท์ของเธอด้วย
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วหะมาสได้แสดงความหวังว่านักโทษปาเลสไตน์ทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัวและปิดคดีของพวกเขาระหว่างการพิจารณาคดีในสัปดาห์นี้ โดยหะมาสได้อ้างถึงจุดยืนในอดีตของราชอาณาจักรและผู้ปกครองที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์เสมอมาจึงทำให้หะมาสกล้าที่จะแสดงความคาดหวังดังกล่าว และว่าชาวปาเลสไตน์เหล่านี้ถูกจับกุมจากการทำกิจกรรมและงานการกุศลเพื่อสนับสนุนปาเลสไตน์อันเป็นจุดยืนเดียวกับรัฐบาลและผู้ปกครองซาอุฯ ทุกยุคสมัย จึงไม่น่าจะมีความผิด