SOUTH : นักสิทธิเตือนสติสังคม กรณีคลอดลูกที่ปั๊ม สังคมมุสลิมต้องยอมรับความจริง ช่วยกันแก้ปัญหา อย่าไปประณามเด็ก สอดคล้องข่าวปี 61 ปมจับที่ทำแท้งเถื่อน อ.ยี่งอ #หมออีระฟาน เผยเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาที่ถูกปกปิดมานาน แนะต้องร่วมมือกันแก้ไข
.
จากกรณีข่าว เด็กหญิงมุสลิมจ.นราธิวาส คลอดลูกและทิ้งที่ปั๊มระหว่างไปทัศนศึกษา ซึ่งกระแสสังคมส่วนมาก พุ่งเป้าวิจารณ์ในทางไม่ดีไปที่ตัวของเด็กนักเรียน
.
น.ส.อัญชนา หีมมิหน๊ะ #อดีตอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจังหวัดชายแดนใต้ และ #ประธานกลุ่มด้วยใจ #ในฐานะที่ทำงานด้านสิทธิ
ได้ออกมาโพสต์เตือนสติสังคม ถึงเวลาที่เราต้องหยุดการประณามเด็กได้แล้ว เลิกมองว่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมมุสลิม แต่เรามาสร้างสังคมใหม่ที่จะเติบโต ดูแลไปด้วยกัน ไม่ใช่หน้าที่โรงเรียน พ่อแม่ ชุมชน เด็ก แต่เป็นหน้าที่ของทุกคน
.
กรณีแรก เด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เราต้องไปดูว่าเด็กยินยอมมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ยินยอม เด็กถูกข่มขืนหรือหลอกลวงหรือไม่ แต่ที่เห็นได้ชัดคือเด็กไม่มีความรู้เรื่องเพศ การป้องกัน การมีบุตร และเด็กไม่พร้อมทั้งกายและใจในการเลี้ยงดูเด็กที่คลอดมา
.
การจัดการคือจัดหาผู้ปกครองที่เหมาะสมให้เด็กที่เพิ่งคลอด หากเป็นครอบครัวของเด็กหญิงที่คลอดมาจะต้องรับประกันว่าจะไม่ทำให้เด็กคนนี้ถูกตีตราจากชุมชนและครอบครัว เพราะแม่เด็กยังไม่มีความพร้อมในการดูแลเด็ก ในระยะยาวเด็กต้องได้รับการพูดคุยทำความเข้าใจถึงสถานการณ์นี้ด้วย
.
กรณีที่ 2 คือสภาพจิตใจเด็กหญิงที่เป็นแม่
การจัดการคือการดูแลสภาพจิตใจเด็กหญิงผู้เป็นแม่ ด้วยการทำความเข้าใจกับเด็ก ครอบครัว เพื่อน และโรงเรียนเพราะทุกคนคงช๊อค คงเพิ่งรู้เรื่อง การสื่อสารกับเด็กและคนรอบข้างจึงสำคัญ และการคุยกันเพื่อวางแผนอนาคตให้กับเด็กต่อไป เราอยากให้เด็กได้เรียนหนังสือต่อไป และมีผู้ปกครองที่เข้าใจและคอยอยู่เคียงข้างสนับสนุนเขา
.
ชุมชน แน่นอนว่าสังคมมุสลิมไม่ยอมรับเรื่องนี้และวิธีแก้คือการหาคนแต่งงานให้เด็ก ซึ่งอาจจะกลายเป็นการซ้ำเติมและผลักเด็กให้เข้าสู่การแต่งงานซ้ำ การมีลูกเพิ่มอีก ภาวะยากจน เราจึงอยากเห็นการแก้ปัญหาด้วยการพูดคุยกัน หาทางออกที่เราต้องคำนึงถึงเด็กเป็นสำคัญ และวางแผนในการป้องกันสังคมระยะยาว การทำความเข้าใจเรื่องเพศในสถานศึกษา การให้ความรู้ครอบครัว ชุมชนในการดูแลเด็กให้แข็งแกร่งป้องกันการละเมิดสิทธิทางร่างกาย
.
สอดคล้องกับข่าวเมื่อปี 2561 กรณีจนท.บุกจับที่ทำแท้งเถื่อน ในอ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ซึ่งทำมากว่า 30 ปี
.
นพ.อีระฟาน หะยีอีแต ผอ.โรงพยาบาลกรงปินัง เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาที่ถูกปกปิดมานาน เช่นการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน การเที่ยวเตร่ของวัยรุ่นชายหญิง มีแฟนระหว่างเรียน เป็นต้น สิ่งต่างๆเหล่านี้ตนมองว่าเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งสื่อโลกออนไลน์ที่กว้างขวางมากขึ้น เข้าถึงสิ่งลามกง่ายขึ้น หนุ่มสาวจีบกันผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น จึงนำไปสู่การมีแฟนและมีเพศสัมพันธ์กันจนท้อง ต่อเมื่อหมดสิ้นหนทางจึงไปทำแท้ง
.
ส่วนหนึ่งก็เห็นใจผู้ปกครองที่จะรู้สึกอับอาย จึงไม่กล้าเปิดเผยหรือบอกเล่าปัญหาให้ใครฟัง แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องหาทางแก้ไข และป้องกันฉะนั้นเรื่องนี้ต้องทำอย่างจริงจัง หลายส่วนต้องร่วมมือกัน ทั้งครอบครัว สถานบันการศึกษา จนท.ที่เกี่ยวข้อง
.