WORLD : “ฉันไม่ได้ต่อต้านอเมริกาเลย ฉันต้องการมิตรภาพกับอเมริกา แต่ฉันไม่ต้องการความเป็นทาส” อิมราน …
UPDATE : ปากีสถานสถานประกาศเตือนอินเดียถึงการใช้กำลังทหาร โดยเตือนว่าอาจจุดชนวนจนทำให้เกิด “สงครามทำลายล้างครั้งสุดท้าย” ระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์
เชค ราชีด อะห์มัด รัฐมนตรีกิจการภายในของปากีสถาน ประกาศว่าจะมี “สงครามครั้งสุดท้ายที่ประวัติศาสตร์จะจารึก” หากอินเดียคุกคามชายแดนของปากีสถาน และยังกล่าวเป็นนัยว่าอาจมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์หากมีสงครามเกิดขึ้น คำเตือนของอะห์หมัดมีขึ้นหนึ่งวัน หลังจากที่รัฐบาลปากีสถานระบุในจดหมายถึงสหประชาชาติ หรือ UN ว่า อินเดียวางแผนโจมตีข้ามชายแดน
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า กองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือของปากีสถาน อยู่ในขั้นเตรียมพร้อมสูงสุด รวมถึงในดินแดนแคชเมียร์ในส่วนที่ปากีสถานปกครอง เพื่อรับมือกับ “เหตุร้าย” ที่อาจมาจากทางฝั่งอินเดีย ทั้งนี้ ทางรัฐบาลอินเดียยังไม่มีความเห็นต่อข้อกล่าวหาของทางปากีสถาน
ดินแดนแคชเมียร์เป็นข้อพิพาท ของสงครามสองในสามครั้งระหว่างอินเดียและปากีสถาน และยังจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งอีกนับครั้งไม่ถ้วน นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปีค.ศ. 1947
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปากีสถานกล่าวหาว่ากองกำลังของอินเดียเล็งเป้าไปที่ยานพาหนะของ UN ที่บรรทุกผู้สังเกตการณ์ทางทหารสองคน ไปยังดินแดนแคชเมียร์ในฝั่งของปากีสถาน โดยระบุว่าผู้สังเกตการณ์ทั้งสองหลบหนีมาได้อย่างปลอดภัย โดยทาง UN ยืนยันว่าเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นจริง และขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน
ต่อมาในวันเสาร์ นายกรัฐมนตรีอิมรอน ข่าน ของปากีสถาน ประณามเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นการโจมตีที่ตั้งใจพุ่งเป้าไปที่ยานพาหนะของ UN โดยเขาระบุในทวิตเตอร์ว่า หากอินเดียกระทำการใส่ร้ายป้ายสีปากีสถาน ทางปากีสถานจะ “ตอบโต้อย่างสาสม”ต่อการคุกคามในทุกระดับ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว เครื่องบินรบของอินเดียบินเข้าปากีสถาน โดยทางอินเดียระบุว่า เครื่องบินดังกล่าวโจมตีค่ายฝึกของกลุ่มติดอาวุธ ที่ถูกกล่าวหาว่าโจมตีกองกำลังความมั่นคงของอินเดีย ในดินแดนแคชเมียร์
ปากีสถานตอบโต้ว่าข้อกล่าวหาของอินเดียไม่มีมูล โดยระบุว่าอินเดียทิ้งระเบิดลงพื้นที่ป่าที่ไม่มีผู้คน ในเมืองบาลาค็อตที่ตั้งอยู่กลางภูเขา ก่อนที่ในวันถัดมา ปากีสถานตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศเหนือพรมแดนแคชเมียร์ ยิงเครื่องบินของอินเดียและจับตัวนักบิน
นับเป็นการโจมตีทางอากาศระหว่างปากีสถานและอินเดียครั้งแรกในรอบ 50 ปี และทำให้ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นมากจนมีรายงานว่า ทั้งสองประเทศเตรียมระดมขีปนาวุธนิวเคลียร์ของตนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในที่สุด ทางปากีสถานได้ปล่อยตัวนักบินในอีกสองวันต่อมา ผ่านการเจรจาที่ประเทศมหาอำนาจ รวมทั้งสหรัฐฯ และจีน มีส่วนร่วมด้วย ทำให้ความตึงเครียดในขณะนั้นผ่อนคลายลง