เกิดอะไรในโลก : ประธานาธิบดีจีนย้ำความสำคัญหลักการสองรัฐ และเรียกร้องจัดประชุมสันติภาพตะวันออกกลาง คลายความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาส
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 10 ของฟอรัมความร่วมมือจีน-ประเทศอาหรับที่กรุงปักกิ่งวานนี้ โดยมีประมุขจากบาห์เรน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตูนิเซียเข้าร่วม และมีรัฐมนตรีต่างประเทศจากสมาชิกสันนิบาตอาหรับอีกหลายประเทศ
สนับสนุนเจรจาแบบวงกว้าง
ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า สงครามในกาซาไม่สามารถดำเนินไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ความยุติธรรมไม่สามารถขาดหายไปอย่างถาวร และทางออก 2 รัฐจะต้องได้รับการปกป้องไว้อย่างมั่นคง พร้อมกับระบุว่าการให้เกียรติกัน คือหนทางที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ในโลกที่ปั่นป่วน ความเป็นธรรมและความยุติธรรมคือรากฐานของความมั่นคงที่ยั่งยืน
ตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่เปี่ยมไปด้วยโอกาสของการพัฒนา แต่ต้องเผชิญกับภาวะหยุดชะงักเนื่องจากสงคราม พร้อมทั้งเน้นย้ำจุดยืนของรัฐบาลปักกิ่ง ในการแก้ไขวิกฤติการณ์ครั้งนี้ตามแนวทางสองรัฐ โดยจีนสนับสนุนการเจรจาสันติภาพ “แบบวงกว้าง” เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาส
จีนจะเดินหน้าสนับสนุนการบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรม และการฟื้นฟูหลังสงครามในกาซา โดยรับปากจะจัดสรรความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฉุกเฉินอีก 500 ล้านหยวน (ราว 2,590 ล้านบาท) และจะบริจาคเงิน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 110 ล้านบาท) ให้แก่สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่กาซา
ประเทศคู่ค้าที่สำคัญยิ่ง
ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศอาหรับ “แน่นแฟ้นและลึกซึ้งยาวนาน” ตั้งแต่สมัยเส้นทางสายไหม และปัจจุบันมีประเทศอาหรับอย่างน้อย 21 แห่ง ลงนามในกรอบความร่วมมือ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ “เส้นทางสายไหมใหม่” กับจีน
จีนยังคงจะร่วมมือกับประเทศอาหรับต่อไปในหลายด้าน เช่น แหล่งน้ำมันและก๊าซ การลงทุนขนาดใหญ่ จะสนับสนุนให้บริษัทพลังงานและสถาบันการเงินของจีน มีส่วนร่วมในโครงการพลังงานหมุนเวียนที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกันมากกว่า 3 ล้านกิโลวัตต์ในประเทศอาหรับ และจะจัดการประชุมสุดยอดจีน-อาหรับครั้งที่ 2 ในปี 2026 หลังจากจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2022 ที่กรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย
ข้อมูลของศุลกากรจีนระบุว่า จีนเป็นผู้ซื้อพลังงานรายใหญ่ของประเทศริมอ่าวอาหรับ และมีการค้าทวิภาคีในปี 2023 มูลค่า 286,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10.6 ล้านล้านบาท) ในจำนวนนี้เกือบร้อยละ 40 เป็นการค้ากับซาอุดีอาระเบีย
บทบาทใหม่ของจีน
อนึ่ง คณะผู้แทนของพรรคฟัตตะห์ ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลปาเลสไตน์ของประธานาธิบดีมะห์มูด อับบาส และคณะผู้แทนของกลุ่มฮะมาส พบหารือกันที่กรุงปักกิ่งเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งจีนยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายแสดงเจตจำนงทางการเมือง ที่จะประนีประนอมผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในอีกหลายเรื่อง เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าเชิงบวกที่เป็นรูปธรรมในอนาคต
นอกจากนี้ นายหวัง เค่อเจี้ยน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการตะวันออกกลางของจีน เยือนกาตาร์เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา และพบหารือกับนายอิสมาอิล ฮานิเยะห์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮะมาส
มุมมองนักวิชาการ
ทางด้าน มาเรีย ปาปายิออร์ยิว อาจารย์การเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ในอังกฤษ ชี้ว่าเป้าหมายสำคัญที่สุดของจีนในตะวันออกกลางคือเศรษฐกิจ โดยจีนต้องการรักษาโมเมนตัมที่สร้างไว้เมื่อหลายปีก่อนในประเทศเหล่านี้ และขยายการลงทุน โดยเฉพาะด้านการค้า เทคโนโลยี (เครือข่าย 5จี) และแผนการริเริ่มด้านไซเบอร์อื่นๆ
นอกจากนั้น จีนยังต้องการเสนอตัวเป็นทางเลือกแทนตะวันตก และเป็นหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือกว่าซึ่งจะไม่แทรกแซงกิจการภายในหรือกดดันชาติอื่น
ก่อนเปิดประชุมหนึ่งวัน สีได้หารือกับประธานาธิบดีอับดุล-ฟัตตะห์ อัซ-ซิซี ของอียิปต์ และผู้นำทั้งคู่ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี การนำเข้าอาหาร นอกจากนั้น จีนยังลงทุนในโครงการของรัฐบาลอียิปต์ ซึ่งรวมถึงเขตเศรษฐกิจคลองสุเอซ เมืองหลวงทางการบริหารแห่งใหม่ที่อยู่ทางตะวันออกของกรุงไคโร
ปักกิ่งยังมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจแน่นแฟ้นขึ้นกับยูเออี ที่ถูกอเมริกาวิจารณ์จากข้อกล่าวหา ยอมให้จีนเข้าไปสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารในอาบูดาบี
นอกจากการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าในตะวันออกกลางแล้ว จีนยังพยายามเพิ่มบทบาททางการทูตในภูมิภาคนี้ โดยเมื่อปีที่แล้ว ปักกิ่งช่วยเป็นตัวกลางผลักดันข้อตกลงฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน
ที่มา :
https://www.dailynews.co.th/news/3485754/