Hajj1444 : สรุปประเด็นประชุมเตรียมการฮัจย์ ปี 2566
.
24 มกราคม 2566 เพจเฟซบุ๊กกองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและกิจการฮัจย์รายงานว่า คณะอนุกรรมการประชุมเตรียมการฮัจย์ นำโดย พล.ต.ท. ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ ได้เดินทางไปยังราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในระหว่างวันที่ 8 – 18 มกราคม 2566 เพื่อร่วมประชุมและลงนามกับกระทรวงฮัจย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกิจการฮัจย์ของซาอุดีอาระเบีย โดยมีสรุปประเด็นสำคัญ ดังนี้
- กระทรวงฮัจย์และอุมเราะห์ได้จัดสรรจำนวนโควตาผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทย จำนวน 13,000 คน
- ไม่กำหนดเงื่อนไขอายุของผู้แสวงบุญ
- ผู้แสวงบุญต้องได้รับวัคซีน 3 ชนิด ได้แก่
1) วัคซีนโควิด -19 (ครบโดส)
2) วัคซีนไข้หวัดใหญ่
3) วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น - บริษัทมาชาริก (MASHARIQ ) ที่ให้บริการผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ในเมืองมักกะห์ ได้นำเสนอปรับลดราคาบริการในช่วงประกอบพิธีฮัจย์ จากเดิม 5,656 ริยาล/คน (ปีที่ผ่านมา) เป็น 3,823 ริยาล/คน คณะอนุกรรมการฯ และผู้แทนสมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจย์ทั้งสาม ได้ต่อรองและขอปรับลดราคาลงเหลือ 3,565 ริยาล/คน ซึ่งทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายจากในปีที่ผ่านมาได้ จำนวน 2,091 ริยาล/คน (ประมาณ 18,800 บาท/คน)
- บริษัทรถยนต์ที่จะทำการขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทยระหว่างเมืองมักกะห์และมาดีนะห์ คือบริษัทรอวาฮิล (Rawahel) ซึ่งจะใช้รถบัสขนส่งโมเดลรุ่นปี 2020 -2023 โดยบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่ได้รับการรับรองขององค์การสหกรณ์รถยนต์ซาอุดีอาระเบีย
- อาหารที่จะให้บริการผู้แสวงบุญในช่วงประกอบพิธีฮัจย์ทั้งหมด 17 มื้อ โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
1) อาหารซองสำเร็จรูปรสชาติคนไทย จำนวน 4 มื้อ
2) อาหารปรุงสุกใหม่ 13 มื้อ ซึ่งได้รับการปรุงจากพ่อครัวไทย ในโรงครัวประกอบอาหาร ณ ทุ่งมีนา
.
ขอบคุณภาพและเนื้อหา : กองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและกิจการฮัจย์