กาตาร์เรียกร้องให้กลุ่มรัฐอ่าวจัดการเจรจาร่วมกับอิหร่าน ลั่นพร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกเต็มที่ มิ…
“ไม่มีความหวัง” เสียงสะท้อนมุสลิมศรีลังกากับผลการเลือกตั้ง
หลังจากผลการเลือกตั้งศรีลังกาเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า โกตาบายา ราชปักษา ผู้ปราบกองกำลังพยัคฆ์ปลดปล่อยทมิฬอีแลมในอดีตมีชัยชนะเหนือคู่แข่ง แต่ชนกลุ่มน้อยมุสลิมในศรีลังกานั้นยังตกอยู่ในความหวาดกลัวการเป็นอยู่ในอนาคตของพวกเขา
การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ .17 พ.ย. 2562 โด้ผู้นำคนใหม่แล้ว คือนายโกตาบายา ราชปักษา ชนะนายซาจิท เปรมาดาซา คู่แข่งสำคัญของนายโกตาบายา ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 ที่ 41.99% โดยเขาประกาศยอมแพ้ และแสดงความยินดีกับว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ด้วย ซึ่งนายโกตาบายาได้รับเสียง 52.52 %
เดอะการ์เดียนรายงานว่า อ้างคำให้สัมภาษณ์ ฮิลมี อะฮฺหมัด รองประธานสภามุสลิมแห่งศรีลังกา ก่อนการเลือกตั้งศรีลัง เมื่อสองเดือนที่แล้ว มีโทรศัพท์จากหมายเลขลึกลับถึงฮิลมี โดยพยายามจะคุกคาม ข่มขู่ให้เขาทุ่มการสนับสนุนกับนายโกตาบายา ราชปักษา มิฉะนั้นเราจะจุดไฟเผาบ้านของคุณ ข่มขืนภรรยาของคุณ แล้วฆ่าครอบครัวของคุณ
อะฮฺหมัด กล่าวว่า“ แคมเปญการเลือกตั้งครั้งนี้ ชุมชนชาวมุสลิมทั่วทั้งศรีลังกาต่างตื่นกลัวกันอย่างมาก” โดยเขาได้หนีไปต่างประเทศหลังจากได้รับการข่มขู่ทางโทรศัพท์ “ พวกหัวรุนแรงชาตินิยมเกือบทั้งหมดได้รวมตัวกันสนับสนุน โกตาบายา ราชปักษา และเขาน่าจะชนะ เรากลัวว่าพวกเขาจะออกมาตรการอย่างเต็มที่ ด้วยการแบ่งแยกเชื้อชาติการต่อต้านมุสลิมและการโจมตีชาวมุสลิม”
การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นกับเบื้องหลังของความรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดและความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ประเทศเผชิญมาตั้งแต่ปลายสงครามกลางเมืองเมื่อสิบปีที่แล้วสามารถพิสูจน์ได้ว่า เป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างมาก ในทุกเรื่องตั้งแต่สิทธิมนุษยชนไปจนถึงความสามัคคีและการอยู่ร่วมกัน ความเท่าเทียม โดยที่ที่เสี่ยงที่จะได้รับอันตรายที่สุดคือสถานที่ของชาวมุสลิมในสังคมศรีลังกา
นายโกตาบายา ราชปักษา เป็นน้องชายของนายมหินทา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา ซึ่งปกครองประเทศในยุคที่ กองกำลังพยัคฆ์ปลดปล่อยทมิฬอีแลม ถูกกำจัด (พ.ศ. 2552) โดยในตอนนั้นนายโกตาบายามีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และควบคุมปฏิบัติการปราบกบฏ ซึ่งยุติสงครามกลางเมืองในศรีลังกาที่ดำเนินมานานกว่า 25 ปีได้สำเร็จ
เหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่ในวันอีสเตอร์เมื่อเดือนเมษายน ซึ่งคนร้ายวางระเบิดโจมตีโบสถ์และโรงแรมหลายแห่งทั่วประเทศ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 269 ราย ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในศรีลังกาอย่างหนัก นอกจากนี้ยังตอกย้ำความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาติพันธ์ุในประเทศอีกครั้ง ซึ่งโกตาบายาให้คำมั่นสัญญาว่าจะยกระดับการพัฒนาและความมั่นคงของประเทศ
มุสลิมในศรีลังการต้องเผชิญกับความขัดแย้งด้านชาติพันธุ์หลายครั้งอย่างไรก็ตาม ชุมชนมุสลิม ร้านค้าที่มุสลิมเป็นเจ้าของตกเป็นเป้าโจมตีและต่อต้านในรูปแบบต่างๆ ขณะที่ชุมชนคริสต์ก็ถูกก่อกวนบ้างแต่ไม่มากนัก