นราฯท่วม3อภ.เดือดร้อน1.5หมื่น
ปัตตานีน้ำป่าทะลักท่วม5อำเภอ
นายกฯติดตามสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ ห่วงภาคใต้ที่ฝนตกหนักน้ำท่วม ย้ำหน่วยงานดูแลปชช.-บริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมขณะที่หลายจังหวัดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้จ.นราธิวาสท่วมแล้ว3 อำเภอ ชาวบ้าน 1.5 หมื่นเดือดร้อน เช่นเดียวกับ 5 อำเภอปัตตานี จม ปภ.เตือนต่อเนื่องรับมือท่วมฉับพลัน ขณะที่สงขลา-ตรังเสี่ยงน้ำฝน น้ำป่า
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมติดตามสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังบริหารจัดการสถานการณ์น้ำให้เหมาะสม สอดคล้องกับพื้นที่แต่ละจังหวัดด้วย
นายกฯสั่งติดตามสถานการณ์น้ำ
“นายกฯย้ำการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมบริหารจัดการน้ำล่วงหน้า เพื่อรองรับสถานการณ์ ทั้งเร่งระบายน้ำและพร่องน้ำ ลงพื้นที่ตรวจสอบและซ่อมแซมตามแนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ รวมถึงการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่และเครื่องมือประจำพื้นที่จุดเสี่ยงภัยให้เพียงพอ เพื่อให้ทันกับการเข้าช่วยเหลือประชาชน” รองโฆษกรัฐบาลกล่าว
ใต้ตอนล่างฝนหนักต่อเนื่อง
และว่า ก่อนหน้านี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) รายงานสภาพอากาศรอบ 24 ชั่วโมง พบว่ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักมากบริเวณจ.สงขลา นราธิวาส และปัตตานี และออกประกาศแจ้งพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขังบริเวณจ.ชุมพร ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นฉับพลันและระดับน้ำลันตลิ่งบริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำชุมพร คลองหลังสวน แม่น้ำตาปี แม่น้ำพุมดวง แม่น้ำตะกั่วป่า แม่น้ำปากพนัง แม่น้ำตรัง คลองชะอวด แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำโก-ลก
นอกจากนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำ และแหล่งน้ำให้สอดคล้องสภาพอากาศในพื้นที่ โดยเฉพาะในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่า 80% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ โดยศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ได้พิจารณาปรับลดระบายน้ำอยู่ที่ 5 ล้าน ลบ.ม. (จากเดิม 6.05 ลบ.ม.) โดยเริ่มลดระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม เพื่อลดผลกระทบท้ายเขื่อน
นราฯอ่วม3อ.-1.5หมื่นคนเดือดร้อน
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ในหลายจังหวัดภาคใต้ ที่มีฝนตกต่อเนื่องและเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ และทำให้ระดับน้ำทั้ง 3 ลุ่มน้ำหลักคือ ลุ่มน้ำบางนรา ลุ่มน้ำสายบุรี ลุ่มน้ำโก-ลก ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ว่า มี 3 อำเภอได้รับผลกระทบ ได้แก่ อ.ระแงะ อ.เมืองนราธิวาส และอ.บาเจาะ รวม 17 ตำบล 86 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,586 ครัวเรือน 15,191 คน โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เกิดน้ำท่วมขับบ้านเรือนประชาชน ถนนทางไปศูนย์ราชการมีน้ำท่วมขังประมาณ 50 เซนติเมตร รถเล็กผ่านไม่ได้ ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือประชาชน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำพร่องน้ำจากฝนที่ตกหนัก พร้อมกับเตรียมนำกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ เตรียมแผนเคลื่อนย้ายไปศูนย์พักพิงที่เตรียมไว้ สำหรับสภาพอาการทั่วไปในจ.นราธิวาส มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70% สถานการณ์น้ำท่า ลุ่มน้ำสายบุรีและลุ่มน้ำโก-ลก อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง (สีเหลือง) ลุ่มน้ำบางนรา ล้นตลิ่ง (สีแดง)
ปัตตานีเจอทั้งน้ำป่า-น้ำฝน5อ.จม
เช่นเดียวกับ ที่จ.ปัตตานี มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมใน 5 อำเภอ ติดแม่น้ำสายบุรี ได้แก่ อ.ทุ่งยางแดง อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.โคกโพธิ์ และ อ.มายอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 4 พันครัวเรือน โดยระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี สูงขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณน้ำฝนตกลงจำนวนมาก ประกอบกับเกิดน้ำทะเลหนุน น้ำทะลักท่วมหมู่บ้าน นอกจากนี้ ยังมีน้ำจากเทือกเขาไหลลงมาด้านล่าง ทำให้บ้านเรือนราษฎรที่อยู่ด้านล่างถูกน้ำเข้าท่วมเช่นกัน โดยเฉพาะอ.โคกโพธิ์ ซึ่งติดกับน้ำตกทรายขาว
ด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำ ทั้งแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุน พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ทั้ง 12 อำเภอให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมง
สงขลายังปักธงแดงท่วมแล้ว5อ.
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในจ.สงขลา ภาพรวมระดับน้ำลดลง เนื่องจากฝนหยุดตกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ยังมีน้ำท่วมบางพื้นที่ของบ้านควนจง หมู่ 4 ต.นาหม่อม อ.นาหม่อม โดยเฉพาะในซอยราษฎร์บูรณะ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ จึงประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ประชาชนต้องเดินลุยน้ำเข้า-ออกบ้านเรือน ระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาหม่อมยังตรึงสัญลักษณ์ธงแดง บริเวณริมคลองบ้านควนจง ทำให้พื้นที่นี้ยังไม่ปลอดภัย ขณะที่อากาศยังมืดครึ้มมีฝนตกตลอดเวลา โดย จ.สงขลา มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว 5 อำเภอ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ อ.นาหม่อม อ.จะนะ อ.บางกล่ำ และ อ.นาทวี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
ใต้ฝั่งตอ.ฝนหนัก-ท่วมต่อเนื่อง
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา ออกประกาศเตือนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศมาเลเซียตอนบน ยังคงส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งต่อไปอีก 1-2 วัน
ปภ.ตรังเตือน12ต.ในอ.เมืองเสี่ยงน้ำป่า
ที่จ.ตรัง เกิดน้ำป่าไหลหลากจากน้ำตกเทือกเขาบรรทัด พื้นที่รอยต่อตรัง-พัทลุง เช่น น้ำตกโตนตก น้ำตกโตนเต๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง แต่ปริมาณน้ำในลำคลองสาขายังไหลลงด้านล่างรวดเร็ว ทำให้ไม่เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก จ.ตรัง และเฝ้าระวังต่อไปอีก 12 ตำบล พื้นที่ติดเทือกเขาบรรทัดในอ.เมืองตรัง ต.น้ำผุด, อ.นาโยง ต.ช่อง ต.ละมอ, อ.ปะเหลียน ต.ปะเหลียน, ต.ลิพัง, อ.ย่านตาขาว ต.นาชุมเห็ด, ต.โพรงจระเข้, อ.รัษฎา ต.หนองบัว และ อ.ห้วยยอด ต.เขาปูน, ต.ปากคม, ต.ในเตา และ ต.ปากแจ่ม ขณะที่เกิดฝนตกตลอดเวลา และบางจุด โดยเฉพาะบนเทือกเขาบรรทัดเกิดฝนตกหนักเป็นระยะ ให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ
