White Channel

ปัตตานี จน ข้น แค้น สะท้อนถึงปัญหาหมักหมมอย่างยาวนาน ในพื้นที่ปาตานี หรือ จังหวัดชายแดนใต้ของไทย

POLITICS : ปัตตานี จน ข้น แค้น สะท้อนถึงปัญหาหมักหมมอย่างยาวนาน ในพื้นที่ปาตานี หรือ จังหวัดชายแดนใต้ของไทย
.
บทความจากเฟสบุ๊ค กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม
ขอบคุณรายการ #สบตาประชาชน ของ Voice TV ในการผลิตรายการคุณภาพเยี่ยมยอดที่ดึงเสียงทุกข์ชาวบ้านที่เรื้อรังออกมาผลิตเป็นสื่อให้สาธารณะเข้าใจถึงปัญหาในท้องถิ่นทั่วไทยที่มันซับซ้อนให้เข้าใจได้อย่างง่ายๆ
.
คลิปที่ผมนำมาแชร์ อยากให้เพื่อนๆ ได้ชมให้จบนะครับ ใช้เวลา 13.57 นาที เราจะได้ยินเสียงชาวบ้าน อย่างแบดอเลาะ ที่ได้มาเล่าเรื่องประสบการณ์ชีวิตของตนเอง ครอบครัว และสังคมของชาวตันหยงเปาว์ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ที่ถูกกาหัวจากฝ่ายความมั่นคงว่าเป็น “พื้นที่สีแดง” และการใช้ชีวิตอย่างไม่ปกติสุขอยู่ทุกวันของพี่น้องปาตานี
.
เพื่อนๆ จะได้ยินว่า “งานการที่ทำไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งทำไม่ได้เลย การสะท้อนถึงสังคมวัยหนุ่มสาวที่มีพลังทำงานกลับต้องหนีไปทำงานที่อื่น อย่างมาเลเซีย เพื่อหารายได้ประทังตนและเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ไม่ปกติสุขในพื้นที่ ชีวิตเหมือนนกในกรงที่ไม่มีอิสระโบยบินโดยถูกตีกรอบจากด่านต่างๆ ที่ขึ้นเป็นดอกเห็ดในปาตานี การใช้อำนาจจากกฎหมายพิเศษในการริดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน การพัฒนาที่กำหนดมาจากส่วนกลางและไม่เคยถามชาวบ้าน ฯลฯ”
.
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะแสดงให้เห็นว่าปัญหาจะไม่สามารถคลี่คลายได้เลย หากยังใช้การบริหารจัดการอย่างเดิม ดังนั้น หากคนที่จะมาดูแลการแก้ไขปัญหาในปาตานีต่อไป ไม่สามารถตีโจทย์ใหญ่ออกได้ว่า มันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างการบริหารจัดการในพื้นที่ และหากยังคงโครงสร้างนี้ไว้ ไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ จะยิ่งทำให้ปัญหามันบานปลายและหยั่งลึกลงไปอีก นี่ยังไม่รวมปัญหากฎหมายทับซ้อน แบะการสร้างสันติภาพผิดรูป
.
โครงสร้างปัจจุบันต้องถูกรื้อ กอ.รมน. ศอ.บต. การปกครองส่วนภูมิภาค และกฎหมายพิเศษทั้งหมด ต้องถูกยกเลิก และในเวลาเดียวกัน กระบวนการสร้างสันติภาพต้องรื้อระบบทั้งหมดให้ได้ การสร้างสันติภาพโดยคู่เจรจาไม่สามารถเข้าในพื้นที่ได้ ผู้อำนวยความสะดวกที่เป็นตัวกลางก็ไม่อยู่ในพื้นที่ แล้วมันจะไปเจรจาอะไรยังไง เพราะมันคือการสร้างความไม่ต่อเนื่องโดยแยกการเจรจาออกจากการทำงานสร้างสันติภาพในพื้นที่
.
ระบบโครงสร้างที่จำเป็นต้องมาเปลีายนรูปแบบปัจจุบัน คือ “จังหวัดจัดการตนเอง” นั่นเอง ลองคิดดูครับ หากกฎหมายพิเศษหมดไป ประชาชนจะอยู่โดยไม่มีความหวาดระแวง การจับอย่างไม่มีหมายจะไม่มี การพัฒนาจะถูกกำหนดโดยกลไกความเหมาะสม ความจำเป็น และความต้องการประชาชน การสร้างอาชีพจะเกิดขึ้นอย่างถูกต้อง ประชาชนจะไม่ต้องโยกย้ายถิ่นฐาน ประชาชนสามารถกำหนดทิศทางการบริหารจัดการตนเองได้ตามความเหมาะสมและต้องการเชิงพื้นที่ สุดท้ายประเทศไทยสามารถมีความหลากหลายที่จะสร้างเอกภาพได้อย่างยั่งยืน
.
https://fb.watch/i-HYFxoi9G/?mibextid=qC1gEa
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10163743765849848&id=131732549847
.
ขอบคุณ กัณวีร์ สืบแสง ,VOICE TV
.

ขุนคมคำ

error: ขอบคุณที่ติดตามครับ