White Channel

“พาทหารกลับบ้าน” นโยบายที่ดูเหมือนง่าย แต่ต้องอาศัยความจริงใจ และรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย

POLITICS : “พาทหารกลับบ้าน” นโยบายที่ดูเหมือนง่าย แต่ต้องอาศัยความจริงใจ และรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย
บทความจากเฟสบุ๊ค กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม
.
พูดทีไร ถูกใจชาวปาตานีในการที่พรรคเป็นธรรมจะ “พาทหารกลับบ้าน” ไม่ใช่ชาวปาตานีรังเกียจพี่น้องทหารหรอกครับเชื่อผม แต่การที่ทหารมีอำนาจมากล้น จากการที่รัฐบาลมอบดาบให้มีกฎหมายพิเศษต่างๆ ในพื้นที่ที่ทำให้ทหารเหมือนมีเกราะพิเศษที่คิดอยากตรวจ ค้น อายัด จับ คุมขัง และอื่นๆ ได้อย่างไม่มีความผิด เพราะใช้กฏอัยการศึก และแค่ ผบ.หน่วยก็ก็สามารถประกาศใช้ได้ !!
.
มันประหลาดและดูมหัศจรรย์มากมายกับประเทศไทยปี 2566 ที่ยังใช้กฏอัยการศึกที่มีมากว่า 100 ปีที่ไม่เคยปรับปรุงให้ทันสมัยเลย ที่น่าแปลกคือกฏอัยการศึกนี้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งตัวรัฐธรรมนูญไทยเปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้ง ทั้งปรับปรุง ทั้งโดนฉีกขาดด้วยรองเท้าบู๊ท แต่กฏอัยการศึก มิเคยเปลี่ยนแปลง !!
.
มันต้องเปลี่ยนครับ มันไม่ควรให้การประกาศกฏอัยการศึกสามารถประกาศได้ด้วยทหาร เปรียบกับร่างกายมนุษย์ หากเราอยากหยิบปากกาสักด้าม สมองจะเป็นตัวคิดว่าเราอยากหยิบ แล้วนิ้วมือจะทำหน้าที่หยิบปากกาขึ้นมา มิใช่นิ้วมือเป็นตัวสั่งสมองว่าอยากหยิบ
.
พูดง่ายๆ ทหารคือกลไกในการนำกฏอัยการศึกไปใช้ แต่คนที่จะพิจารณาประกาศกฏอัยการศึกต้องเป็น “รัฐสภา” รัฐสภาต้องทำหน้าที่เหมือนสมอง ทหารต้องทำหน้าที่เหมือนนิ้วมือ
.
บ้านเรามันกลับตาลปัตรกันไปหมด โครงสร้างการบริหารจัดการทั้งหมดมันกลับหัวกลับหางมาอย่างยาวนาน และไม่มีใครเคยลองทำให้มันกลับมาสู่สภาวะปกติสุข
.
ช่องทางการพาทหารกลับบ้านของพรรคเป็นธรรมมีด้วยกัน 2 แนวทางและต้องควบคู่กันไป คือ

  1. ทำโดยตรงโดยการยกเลิกกฎหมายพิเศษในพื้นที่ปาตานี ทั้งกฎอัยการศึก พรก.ฉุกเฉิน และ พรบ.ความมั่นคงทั้งพื้นที่ หากกฎหมายทั้ง 3 ฉบับถูกยกเลิกและถูกใช้ไปอย่างสากลโลกแล้ว ทหารจะถูกพากลับบ้าน คงเหลือไว้แค่กำลังพลที่จำเป็นต้องอยู่บริเวณชายแดน ที่ต้องทำหน้าที่ทหารอย่างแท้จริง
  2. การดำเนินการคู่ขนาน คือ การยกระดับการเจรจาสันติภาพให้ไปสู่การเมือง รัฐสภาเป็นสถานที่ที่ต้องมีการถกแถลงกันเรื่องการเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพ ประชาชนต้องสามารถเข้าถึงข้อมูลการเจรจาได้ มิใช่เก็บไว้แค่หน่วยความมั่นคงอย่างเดียว จะต้องมีกการตรากฎหมายรองรับการสร้างสันติภาพในปาตานี รวมถึงการพิจารณาให้คู่เจรจากับรัฐไทยสามารถเดินทางเข้ามาในไทยได้ เพื่อร่วมรับฟังปัญหาจากประชาชนเจ้าของพื้นที่ด้วย สิ่งนี้จะแสดงความจริงใจจากรัฐไทย
    .
    ทำไมต้องยกระดับการเจรจา ?? ให้หน่วยความมั่นคงเค้าทำไปไม่ดีเหรอ ?? ทุกท่านครับ 18 ปีกับ 4.9 แสนล้านบาท เงินภาษีจากทุกคนในประเทศไทยได้ถูกใช้ไปกับแผนงาน/โครงการด้านความมั่นคงและพัฒนาในปาตานี พวกเราทุกคนต้องทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่ ประชาชนต้องสามารถตั้งกระทู้ตรวจสอบและถามไถ่ได้ครับ
    .
    ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ ผมอยากยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีใครหรอกครับที่เกลียดทหาร หรือกลับไปเปรียบเทียบกับร่างกายมนุษย์ หากเราไปหยิบของคนอื่นมา คงไม่มีใครไปด่าทอ “นิ้ว” ที่ไปหยิบของคนอื่นมา แต่ “สมอง” ต่างหากที่เป็นตัวสั่งการ “รัฐบาล” ที่บิดเบี้ยวนี่ต่างหากที่ทำให้ทหารต้องมาเผชิญหน้ากับพี่น้องประชาชน
    .
    และไม่ต้องกลัวครับ ว่าทำไมผมถึงไม่พูดหรือไม่มีมาตรการใดๆ เลยต่อคู่เจรจากับรัฐไทย เพราะหากทุกอย่างที่ผมกล่าวข้างบนสามารถบรรลุได้แล้ว ประชาชน/ประชาสังคมที่เป็นเจ้าของพื้นที่จะเป็นผู้ตัดสินเองว่าเค้าจะเลือกอะไร
    .

พาทหารกลับบ้าน #สันติภาพชายแดนใต้ #สันติภาพที่ยั่งยืน #สันติภาพที่กินได้ #เป็นธรรม

ขอบคุณ นายกัณวีร์ สืบแสง
วันที่ 8 มี.ค. 2566
.

ขุนคมคำ

error: ขอบคุณที่ติดตามครับ