White Channel

อิหร่านเปิดสถานทูตในซาอุฯ ฟื้นสัมพันธ์ เปิดฉากโลกอาหรับ ยุคใหม่

WORLD : อิหร่านเปิดสถานทูตในซาอุฯ ฟื้นสัมพันธ์ เปิดฉากโลกอาหรับ ยุคใหม่
.
สถานีโทรทัศน์อัล อาราบียา ของซาอุดีอาระเบียรายงานว่า อิหร่านเปิดสถานทูตในซาอุดีอาระเบียอีกครั้งในรอบ 7 ปี หลังจากประเทศคู่แข่งในภูมิภาค 2 ชาตินี้ เคยประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งนี้ มีตัวแทนของกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านและซาอุดีอาระเบีย เข้าร่วมพิธีในกรุงริยาดด้วย
.
อาลิเรซา บิกเดลี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่าการเปิดสถานทูตเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ความร่วมมือกำลัง “เข้าสู่ยุคใหม่” ทั้งนี้ การเปิดสถานทูตมีขึ้น 3 เดือนหลังจากทั้ง 2 ชาติตกลงที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ ในข้อตกลงที่มีจีนเป็นคนกลางในการเจรจา

ก่อนหน้านี้ ซาอุดิอาระเบียประกาศตัดความสัมพันธ์กับอิหร่านในปี 2559 หลังการเกิดเหตุบุกโจมตีสถานทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเตหะรานของอิหร่าน โดยฝูงชนที่ประท้วงต่อต้านการประหารชีวิตอิหม่ามมุสลิมนิกายชีอะห์คนสำคัญของซาอุดีอาระเบีย

ในการพบปะกับเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน อัล ซาอุด เจ้าชายแห่งซาอุดิอาระเบียในกรุงเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 มิ.ย.) ฮอสเซน อามีร์-อับดอลลาห์อัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน แสดงความพอใจกับ “ความคืบหน้าที่ดีในความสัมพันธ์ทวิภาคี” ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ยังรายงานอ้างคำตรัสของเจ้าชายฟาร์ฮานว่า กำลังมีการวางรากฐานเพื่อเปิดสถานทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเตหะรานอีกครั้ง และยืนยันว่าพระองค์จะเสด็จเยือนที่นั่น “เร็วๆ นี้”

ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมองว่าเป็นผู้นำทางอำนาจของมุสลิมนิกายสุหนี่ และอิหร่านซึ่งเป็นประเทศมุสลิมอำนาจนำของนิกายชีอะห์ที่ใหญ่ที่สุด ต่างติดหล่มอยู่ในการต่อสู้เพื่อครอบงำประเทศต่างๆ ในภูมิภาคมานานหลายทศวรรษ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การแข่งขันของทั้งสองทวีความรุนแรงขึ้น จากสงครามตัวแทนทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง

ในเยเมน ซาอุดีอาระเบียสนับสนุนกองกำลังสนับสนุนรัฐบาล ในการทำสงครามต่อต้านกลุ่มกบฏฮูตี นับตั้งแต่ปี 2558 ในขณะที่ทางการอิหร่านปฏิเสธว่าไม่ได้ลักลอบขนอาวุธให้กับกลุ่มฮูตี ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนในเมืองต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย

ซาอุดีอาระเบียยังกล่าวหาว่าอิหร่านแทรกแซงเลบานอนและอิรัก ซึ่งกลุ่มติดอาวุธชีอะฮ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้สั่งสมอิทธิพลทางทหารและการเมืองมาอย่างมากมาย ตลอดจนการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าและน้ำมันในอ่าวอาหรับ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนในปี 2562 ในโรงงานกลั่นน้ำมันที่สำคัญของซาอุดิอาระเบีย อย่างไรก็ดี อิหร่านปฏิเสธความเกี่ยวข้องในการโจมตีเรือและโรงกลั่นน้ำมันใดๆ

การเปิดสถานทูตของอิหร่านอีกครั้ง เกิดขึ้นใกล้เคียงกับการเยือนซาอุดีอาระเบียของ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยมีการคาดการณ์ว่า บลิงเคนจะเข้าพูดคุยกับผู้นำซาอุดีอาระเบียเกี่ยวกับประเด็นอิหร่าน ราคาน้ำมัน อิทธิพลของจีนและรัสเซียในภูมิภาค และความเป็นไปได้ที่ซาอุดีอาระเบียจะปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลให้เป็นปกติ
.
ขอบคุณ

VoiceOnline

ขุนคมคำ

error: ขอบคุณที่ติดตามครับ