UPDATE : WFP เผยครอบครัวเยเมน43% ต้องลดจำนวนอาหารประจำวัน โครงการอาหารโลก (WFP) ขององค์การสหประชาชาต…
สหภาพยุโรปจะไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับสถานะเยรูซาเล็ม
สำนักข่าวอนาโดลูรายงานเมื่อวันพุธ (11 ก.ย.) ว่า “สหภาพยุโรปจะไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับสถานะเยรูซาเล็ม” หลังนายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศกร้าวจะควบรวมดินแดนบางส่วนของเวสต์แบงก์หากชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง
โฆษกสหภาพยุโรปกล่าวว่า “ตามที่ได้กล่าวถึงข้อสรุปของสภาการต่างประเทศ สหภาพยุโรปจะไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับสถานะของเยรูซาเล็มตามที่สหภาพยุโรปได้เห็นชอบไว้ก่อนปีค.ศ.1967 เป็นอันขาด”
ความเห็นนี้มีขึ้น 1 วันหลังเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลให้คำมั่นสัญญาว่าหากเขาชนะการเลือกตั้งทั่วไปในวันจันทร์ที่ 17 กันยายนนี้ เขาจะผนวกบางส่วนของเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองรวมถึงทางตอนเหนือของเดดซีและเทือกเขาจอร์แดน
โฆษกสหภาพยุโรปกล่าวอีกว่า นโยบายการก่อสร้างและขยายนิคมชาวยิว รวมถึงในเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นสิ่งผิดกฎหมายระหว่างประเทศ และอาจทำลายแผนสันติภาพแบบทางออก 2 รัฐ (the two-state solution) และแผนใหม่ของทรัมป์ที่ชื่อ “โอกาสเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน”
ปัจจุบันมีชาวยิวเชื้อสายอิสราเอลประมาณ 650,000 คนอาศัยอยู่ในนิคมชาวยิวกว่า 100 นิคมที่สร้างขึ้นหลังค.ศ.1967 เมื่ออิสราเอลเข้ายึดครองเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออก
ชาวปาเลสไตน์มองว่าดินแดนส่วนนี้ตลอดจนฉนวนกาซ่าเป็นส่วนประกอบของการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต
กฎหมายระหว่างประเทศมองว่าทั้งเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออกเป็น “ดินแดนที่ถูกยึดครอง” และพิจารณาว่าการสร้างนิคมชาวยิวทั้งหมดในพื้นที่เหล่านี้ล้วนผิดกฎหมาย