ปาเลสไตน์ : ประวัติศาสตร์และวันข้างหน้า
ตอนที่ 1 รู้จักปาเลสไตน์และชาวยิว
*********************************************
เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตึงเครียดระหว่างกาซ่าหรือปาเลสไตน์กับอิสราเอลอีกครั้ง เมื่อ นูร บะรอกะฮฺ ผู้บัญชาการอาวุโสคนหนึ่งของรัฐบาลฮามาสถูกลอบสังหารเสียชีวิตจากปฏิบัติการของกองกำลังพิเศษอิสราแอลที่แฝงตัวเป็นพลเรือนเข้ามาในฉนวนกาซ่า กองพลอัลก็อซซามของรัฐบาลฮามาสจึงส่งกำลังพลออกติดตามไล่ล่า ขณะเดียวกันกองทัพอิสราเอลก็ส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตี (เพื่อคุ้มกันหรือโจมตีซ้ำกันแน่) ส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน ช่องทีวี และโรงแรมบางแห่ง
ล่าสุด นาญี สัรฮาน ปลัดกระทรวงการเคหะของปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่าก็ออกการแถลงการณ์ว่า บ้านเรือนของประชาชนในฉนวนกาซ่าได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 1,252 หลัง จากการโจมตีครั้งล่าสุดของอิสราเอล โดยในจำนวนนั้นเสียหายทั้งหลังไป 77 หลัง
ปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับแผ่นดินปาเลสไตน์ได้สร้างความเสียหายและการสูญเสียมากมาย แต่อะไรคือสาเหตุ? ปัญหาที่ยืดเยื้อและยังมองหาทางออกไม่เจอนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง? การรับรู้และเข้าใจในเรื่องนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราเข้าใจในปมปัญหาจริงๆ และมองเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ได้ชัดเจนขึ้นในที่สุด White Social ขออนุญาตนำพี่น้องผู้อ่านเดินทางไปยังแผ่นดินปาเลสไตน์และท่องไปในเรื่องราวต่างๆของแผ่นดินนี้ไปพร้อมกันเลย
แผ่นดินอารยธรรม
ปาเลสไตน์ คือดินแดนหนึ่งติดชายฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียนในเอเชียตะวันตก เป็นจุดเชื่อมระหว่างทวีปเอเชียและแอฟริกา ทางทิศเหนือติดกับเลบานอน ส่วนทิศตะวันออกติดกับจอร์แดน และมีอียิปต์อยู่ทางตอนใต้
แผ่นดินปาเลสไตน์ถือเป็นเมืองอารยธรรมที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ในความเชื่อของทั้งศาสนายิว คริสต์ และอิสลาม ชาวยิวเชื่อว่ามันเป็นแผ่นดินที่ถูกสัญญาไว้และแก่นสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพวกเขา และที่ฝังศพของบรรดานบีของบนีอิสรออีล สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาคือ บริเวณที่เรียกว่ากุดสฺและอัลเคาะลีล ส่วนชาวคริสเตียนนั้นพวกเขาเชื่อว่า ที่นั่นเป็นจุดกำเนิดศาสนาของพวกเขา พระเยซู (นบีอีซา) เกิดและเริ่มเผยแผ่ธรรมครั้งแรกที่นั่น สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสต์ที่นี่ ได้แก่บริเวณที่เรียกว่ากุดสฺ, บัยตฺ ละหมฺ และอันนาสิเราะฮฺ
ชนชาติที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินปาเลสไตน์และบริเวณโดยรอบมาช้านานก็คือ “ชาวกันอาน” พวกเขาอพยพมาจากคาบสมุทรอาหรับมาเมื้อประมาณ 4,500 ปีก่อน ในเวลานั้นแผ่นดินปาเลสไตน์ถูกรู้จักกันในชื่อ “แผ่นดินกันอาน” และชาวปาเลสไตน์ที่มีชีวิตอยู่ในวันนี้ก็คือลูกหลานของพวกเขา แต่ต่อมาก็มีการแต่งงานจนเกิดการผสมรวมของชาติพันธุ์ไปบ้าง อย่างไรก็ตาม แม้แผ่นดินปาเลสไตน์จะเคยถูกปกครองโดย “คนอื่น” ในบางช่วงบางตอนของประวัติศาสตร์ แต่ชาวมุสลิม/อาหรับปาเลสไตน์ก็ไม่เคยขาดหายไปจากแผ่นดินของตนเอง พวกเขาส่วนใหญ่เป็นมุสลิมและใช้ภาษาอาหรับในการสื่อสาร และปัจจุบันพวกเขาก็ยังอยู่ที่นั่น แม้ยิวไซออนิสต์จะเข้ามารุกรานและบีบบังคับให้พวกเขาต้องทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองไป ตั้งแต่ปี ค.ศ.1948
บนีอิสรออีล
บนีอิสรออีล หรือ วงศ์วานอิสรออีล คือลูกหลานของนบียะอฺกูบ อะลัยฮิสสะลาม (อิสรออีล หมายถึง คนที่เดินทางในช่วงกลางคืน) นบียะอฺกูบพำนักอาศัยอยู่ที่แผ่นดินปาเลสไตน์ ในบรรดาลูกๆของนบียะอฺกูบนั้นมีคนหนึ่งชื่อว่า “ยะฮูซา” (นั่นคือที่มาของการได้ชื่อว่า ยิว) เรารับทราบเรื่องราวของลูกๆนบียะอฺกูบจากอัลกุรอาน นบียูซุฟถูกพี่ๆของตนเองข่มเหงทำร้าย ถูกทิ้งไว้ในบ่อร้างกลางทะเลทราย ได้รับความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกขายและนำตัวไปยังอียิปต์ มีบททดสอบมากมายเกิดขึ้นกับนบียูซุฟ แต่สุดท้ายแล้วท่านก็ได้ขึ้นปกครองอียิปต์ และนำตัวคุณพ่อคือ นบียะอฺกูบและพี่น้องย้ายมาอยู่ที่เมืองอียิปต์ ศูนย์กลางการเผยแผ่คำสอนของพระเจ้าจึงย้ายมาอยู่ที่อียิปต์
กระทั่งถึงยุคสมัยของนบีมูซา อะลัยฮิสสะลาม และฟิรเอานฺ หลังจากนบีมูซาข้ามทะเลแดงสำเร็จ รอดพ้นจากเงื้อมมือของฟิรเอานฺได้แล้ว ท่านก็นำพาประชาชนของตนไปยังแผ่นดินปาเลสไตน์ แต่ชาวยิวดื้อรั้นไม่ยอมเข้าไป อัลลอฮฺจึงให้พวกเขาหลงทางไร้แผ่นดินอาศัยอยู่นาน 40 ปี จนกระทั่งนบีมูซาและนบีฮารูนได้เสียชีวิตลง
หลังจากนั้น นบียูชะอฺ อะลัยฮิสสะลาม ก็ได้นำชาวยิวกลับเข้าสู่แผ่นดินปาเลสไตน์ (ประมาณ 1190 ปีก่อนคริสตกาล) ในอัลกุรอานมีระบุเรื่องราวของนบีดาวูด กษัตริย์ฏอลูตได้มอบบัลลังก์ให้กับนบีดาวูดเป็นกษัตริย์ที่แผ่นดินปาเลสไตน์ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ปาเลสไตน์ถูกปกครองโดยบนีอิสรออีล (หรือ ชาวยิว)
ต่อมานบีสุลัยมานก็ขึ้นครองบัลลังก์แทนนบีดาวูดคุณพ่อ ช่วงเวลานี้เองที่ชนชาติยิวมีความเรืองอำนาจมาก อย่างที่เราก็รู้กันดีว่า อาณาจักรของนบีสุลัยมานนั้นยิ่งใหญ่และกว้างขวางมาก ท่านปกครองทั้งมนุษย์ ญิน และสรรพสัตว์ทั้งหลาย แต่เมื่อนบีสุลัยมานสิ้นชีวิต แผ่นดินปาเลสไตน์ก็ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกถูกชาวเปอร์เซียยึดไป และอีกส่วนถูกเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งจักรวรรดิบาบิโลน เข้ายึดครอง ชาวยิวถูกขับไล่ไปอิรักและถูกห้ามไม่ให้เข้ามาในแผ่นดินปาเลสไตน์อีก (ประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล) การปกครองเปลี่ยนมือจากชาวเปอร์เซียไปเป็นของอเล็กซานเดอร์มหาราช กษัตริย์โรมันผู้ยิ่งใหญ่ (ประมาณ 60 ปีก่อนคริสตกาล) จนกระทั่งท่านอุมัร บินอัลค็อฏฏ็อบ สามารถพิชิตปาเลสไตน์ได้สำเร็จในปี ค.ศ.638
ชาวยิวไม่มีสิทธิ์
พูดกันตามจริงแล้ว ชาวยิวปกครองแผ่นดินปาเลสไตน์เพียงแค่ 4-5 ศตวรรษเท่านั้นคือ ตั้งแต่สมัยนบีดาวูดถึงก่อนยุคของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ (1104 – 586 ก่อนคริสตกาล) ในขณะที่ประชาชาติอิสลามปกครองปาเลสไตน์หลังจากการพิชิตของท่านอุมัรนานถึง 12 ศตวรรษ และยังไม่นับรวมที่ชาวยิวโดยทั่วไปนั้นปฏิเสธไม่ยอมศรัทธาต่อบรรดานบีของอัลลอฮฺ โดยเฉพาะต่อท่านนบีมุฮัมหมัด ศาสนฑูตคนสุดท้าย
ชาวยิวจึงไม่มีสิทธิ์อ้างว่าแผ่นดินปาเลสไตน์เป็นของพวกเขา ต่อให้ชาวยิวจะเคยปกครองที่นั่นมา 4-5 ศตวรรษ แต่นั่นก็เป็นการปกครองแค่เพียงบางส่วน ไม่ใช่ทั้งหมด และการปกครองของพวกเขาก็ได้สิ้นสุดลงแล้วเหมือนกับชนชาติอื่นๆที่เคยเข้ามาปกครองแผ่นดินปาเลสไตน์ เช่น พวกอัสซีเรีย, เปอร์เซีย, ฟิรเอานฺ, กรีก และโรมัน ในขณะที่ชาวปาเลสไตน์ปกครองและอาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้เสมอมา
และจากการศึกษาวิจัยของนักวิชาการชาวยิวเอง อย่าง อาร์เทอร์ คอสท์เลอร์ (Arthur Costler) ระบุว่า ชาวยิวส่วนใหญ่ในปัจจุบันสืบเชื้อสายมาจากชาวยิวคาซาร์ หรือเรียกว่า “อัชคานซ์” ซึ่งเป็นเผ่าหนึ่งจากพวกเติร์กในอดีต และเพิ่งเปลี่ยนมาเป็นยิวเมื่อคริสศตวรรษที่ 8 เอง หากชาวยิวจะมีสิทธิ์ในการกลับไปยังที่ใด ก็คงไม่ใช่แผ่นดินปาเลสไตน์ แต่เป็นแผ่นดินทางตอนใต้ของรัสเซียทางหาก
ติดตามตอนต่อไป…
