White Channel

Politic : สภาฯโหวต “แพทองธาร”เป็นนายกฯคนที่ 31


16 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติบุคคลผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ซึ่งมีชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย โดยการขานชื่อเรียงตามตัวอักษรว่าเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ งดออกเสียง ไม่ลงคะแนน นับตั้งแต่เวลา 11.10 น. เป็นต้นมา
.
ต่อมาเวลา 12.15 น. สภาผู้แทนราษฎร มีเสียงเกิน 248 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของ 493 คน ทำให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นั่งเป็นนายกฯ คนที่ 31 ของประเทศ
.
ต่อมาเวลา 12.34 น. ผลการลงมติที่ประชุมสภา เห็นชอบ 319 ไม่เห็นชอบ 145 งดออกเสียง 27 เสียง โดยสมาชิกในห้องประชุมโดยเฉพาะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นยืนและปรบมือแสดงความยินดี และประธานสั่งปิดประชุมเวลา 12.35 น.
.
แพทองธาร ชินวัตร วัย 37 ปี บุตรคนเล็กสุดของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เธอเป็นบุคคลที่ 3 ในตระกูลชินวัตรที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของไทย โดยสืบทอดตำแหน่งต่อจากนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันพุธ
.
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนครั้งแรกภายหลังสภาผู้แทนราษฎร 319 เสียง ลงมติเห็นชอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31
.
นางสาวแพทองธาร กล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงโหวตจากตัวแทนประชาชนทุกท่าน ดิฉันและทีม จะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ใดก็ตามที่ได้รับมอบหมาย ขอขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำงานมาอย่างหนักมาโดยตลอดเกือบ 1 ปีเต็ม เราทุกคนพร้อมจะทำงานหนักเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป“
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ความตั้งใจแรกที่จะทำคืออะไร นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ขอให้มีการเสนอรายชื่อและโปรดเกล้าก่อนที่จะมีการพูดถึงรายละเอียดในการบริหารต่อไป วันนี้ตั้งใจเพื่อขอบคุณคะแนนโหวตมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนแรกที่แสดงความยินดีคือใคร นางสาวแพทองธาร ตอบว่า สามี พี่ชาย และพี่สาว ซึ่งอยู่ด้วยกันในขณะติดตามการโหวต และได้โทรคุยกับคุณพ่อคุณแม่ โดยคุณพ่อโดย Facetime บอกว่า เมื่อได้รับการนำเสนอชื่อทูลเกล้าและโปรดเกล้าฯ แล้ว ขอให้ทำเต็มที่ ดีใจที่หวังว่าจะได้เห็นลูกสาวได้รับตำแหน่ง (นายกรัฐมนตรี) ก่อนที่ท่านจะเป็นอัลไซเมอร์ เป็นอะไรไป ท่านบอกแบบนี้ เพราะท่านอายุมากแล้ว (หัวเราะ) พูดกันเล่นๆ ก็เป็นกำลังใจให้กันเสมอ คุณแม่ เป็นห่วงเสมอ บอกคุณแม่ว่าจะดูแลตัวเองให้ดี
.
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแรงกดดันหรือไม่ นางสาวแพทองธารตอบว่า ความกดดัน เราสามารถจัดการกับมันได้ การทำงาน ใน mindset ที่เข้ามาทำงานตั้งแต่ก้าวเข้ามาทำงานการเมือง ไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ดีที่สุด เก่งที่สุดในห้อง แต่คิดเสมอว่าเรามีแรงผลักดันที่ชัดเจน เรามีทีมที่ดี ทีมของเราเข้มแข็ง มีประสบการณ์ มีความตั้งใจและคิดไปในแนวทางเดียวกับเรา คือสิ่งที่ตนเองให้คุณค่า (Value) ตรงนี้มากๆ ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งตรงไหนก็ตาม เมื่อเรามีทีมที่ดี เราจะประสบความสำเร็จได้
.
ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่า ตนมีความคาดหวังว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนว่า ‘เรา พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล’ จะร่วมกันสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างพลังให้กับคนไทยทุกคน
.
ผู้สื่อข่าวต่างประเทศถามว่า คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อได้รับการยืนยันว่านายเศรษฐา ต้องออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ตอบว่า มีความรู้สึกสับสน และในขณะนั้นยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรหลังจากผลของคำนิจฉัยของศาลออกมา เมื่อผลเป็นเช่นนั้น ตนรู้สึกเสียใจ เพราะไม่ได้คาดหวังว่าผล (ของคำวินิจฉัย) จะเป็นอย่างนั้น
.
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้รู้ผลคำวินิจฉัยหลังจากที่เดินทางกลับจากจีน และรู้ผลหลังจากเปิดโทรศัพท์มือถือและอ่านข่าว ตอนนั้นเกิดความรู้สึกว่า ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเป็นอย่างนี้ ตนรู้สึกเสียใจมาก และได้คุยกับคุณเศรษฐา พูดคุยกับครอบครัว และพูดคุยกับคนในพรรคหลายคน จนตัดสินใจได้ว่า ถึงเวลาแล้วที่จะทำอะไรสักอย่าง เพื่อประเทศ และเพื่อพรรคเพื่อไทยด้วย ตนจะทำเต็มที่เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า
.
ตอนนี้ วันนี้ รู้สึกเป็นเกียรติและมีความสุขมาก ยืนยันว่าทำดีที่สุดในทุกๆ วันและในทุกโอกาสที่มี แม้มีหลายอย่างเกิดขึ้น หากตนทำดีที่สุดเสมอ และนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้เสมอ เชื่อว่าทุกอย่างจะลุล่วงไปได้ด้วยดี

error: ขอบคุณที่ติดตามครับ