• มีชาวกาซ่าเสียชีวิตอย่างน้อย 32,845 ราย บาดเจ็บ 75,392 ราย ในการโจมตีฉนวนกาซ่าของอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม จำนวนผู้เสียชีวิตที่แก้ไขจากการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมอยู่ที่ 1,139 ราย
• ภาพถ่ายแสดงให้เห็นเศษเสี้ยวของการทำลายล้างที่กองทัพอิสราเอลก่อขึ้นที่อาคารของโรงพยาบาลอัล ชิฟาอฺ ในกาซ่า ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในปาเลสไตน์
• แพทย์ไร้พรมแดน (หรือที่รู้จักในชื่อย่อ MSF) กล่าวว่า โรงพยาบาลอัล-ชิฟาอฺในกาซ่า กลายเป็นซากปรักหักพัง หนึ่งวันหลังจากที่กองทหารอิสราเอลถอนตัวออกจากศูนย์การแพทย์แห่งนี้ หลังการปิดล้อมโจมตีนาน 2 สัปดาห์
• ชาวปาเลสไตน์ที่หนีออกจากโรงพยาบาลอัล-ชิฟาอฺในฉนวนกาซ่า เล่าถึงการทรมานของอิสราเอล หลังจากการปิดล้อมโรงพยาบาลของอิสราเอลนาน 2 สัปดาห์ โดยกองทัพอิสราเอลอ้างว่าได้จับกุมผู้ต้องสงสัย มากกว่า 500 คน
• มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวออสเตรเลีย โปแลนด์ สหราชอาณาจักร และปาเลสไตน์ 5 คน และชาวต่างชาติ 4 คน ถูกสังหารจากการโจมตีของอิสราเอล ภายหลังการส่งมอบอาหารบรรเทาทุกข์ในเมือง ดีร อัล-บาละฮฺ ใจกลางฉนวนกาซ่า สำนักงานสื่อของรัฐบาลฉนวนกาซ่ารายงานว่า กลุ่มช่วยเหลือ World Central Kitchen ซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ระบุว่า พนักงานหลายคนถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล และเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดการสังหารตามอำเภอใจ ในฉนวนกาซ่า
• เจ้าหน้าที่อิหร่านกล่าวว่า อิสราเอลโจมตีอาคารกงสุลของสาธารณรัฐอิสลามในกรุงดามัสกัส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย รวมถึงผู้บัญชาการอาวุโสของ IRGC เนื่องจากกองทัพอิสราเอลล้มเหลวในการบรรลุวัตถุประสงค์ในฉนวนกาซ่า และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ ตอบโต้อย่างจริงจัง
• นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลให้คำมั่นที่จะดำเนินการทันที เพื่อตรากฎหมายใหม่ ในการแบนสำนักข่าวอัลญาซีเราะฮฺและเครือข่ายข่าวต่างประเทศอื่นๆ ที่ถือว่าเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากการปฏิบัติการในประเทศ
• เครือข่ายสื่ออัลญาซีเราะฮฺออกแถลงการณ์ว่า ความคิดเห็นของเนทันยาฮูในเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นการโกหก และเขาต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของพนักงานทั่วโลก หลังจากที่สภาเนสเซตผ่านร่างกฎหมายที่อาจปูทางไปสู่การแบนองค์กรข่าวในอิสราเอล
• แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในการตอบคำถามเกี่ยวกับการถ่ายโอนอาวุธของสหรัฐฯ ไปยังอิสราเอลเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า “เรายึดมั่นต่อสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง”