• มีชาวกาซ่าเสียชีวิตอย่างน้อย 37,718 ราย ผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 86,377 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เด็ก และทารก ขณะที่อีกกว่า 10,000 คนถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ในการโจมตีฉนวนกาซ่าของอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม จำนวนผู้เสียชีวิตที่แก้ไขจากการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมอยู่ที่ 1,139 ราย
• ผู้สื่อข่าวของอัลญาซีเราะฮฺในฉนวนกาซ่า รายงานว่า เครื่องบินรบและขีปนาวุธของอิสราเอลโจมตีพื้นที่พลเรือนที่มีประชากรหนาแน่นทางเหนือ กลาง และใต้ของฉนวนกาซ่าในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สังหารผู้คนหลายสิบราย โดยกองทหารภาคพื้นดินของอิสราเอลทำลายบ้านที่อยู่อาศัยในเมืองรอฟะฮฺทางตอนใต้อย่างเป็นระบบ
• รองหัวหน้า UNICEF กล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในการบรรยายสรุปเกี่ยวกับฉนวนกาซ่า ว่า “ศพของเด็กที่สูญหายหลายพันคนที่ยังคงถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง”
• ยูอาฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลกล่าวว่า มีความก้าวหน้าที่สำคัญเกิดขึ้น จากการสนับสนุนของสหรัฐฯในการเสริมกำลังและการจัดหาอาวุธของอิสราเอล ในระหว่างการเยือนวอชิงตัน ดี.ซี.
• ฝ่ายป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของฉนวนกาซ่ากล่าวว่า การทิ้งระเบิดของอิสราเอลทางตอนเหนือ เป็นการทำลายล้างที่โหดร้ายเกินกว่าจะจินตนาการ หลังจากการโจมตีของอิสราเอลต่อบ้านใน เบต ลาฮียา คร่าชีวิตผู้คนไป 15 ราย
• กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ตนไม่มีความสามารถในการเรียกร้องการดำเนินคดี ท่ามกลางความไม่พอใจ เนื่องจากอิสราเอลยอมรับว่าได้สังหารนักกายภาพบำบัดแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) ด้วยการโจมตีด้วยโดรนซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 5 ราย รวมถึงเด็ก 3 ราย
• ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอาน ของตุรกี พบว่าตัวเองอยู่ในสงครามคำพูดกับรัฐบาลอิสราเอล หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอลเรียกผู้นำตุรกีรายนี้ว่าเป็น “อาชญากรสงคราม”
• รัฐสภาอิสราเอลให้การอนุมัติเบื้องต้นในการขยายและบังคับใช้กฎหมายกับอัลญาซีเราะฮฺอย่างถาวร โดยอนุญาตให้ทางการอิสราเอลปิดแหล่งข่าวของสื่อต่างประเทศที่ถือว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ