• มีชาวกาซ่าเสียชีวิตอย่างน้อย 41,272 ราย ผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 95,551 ราย ขณะที่อีกกว่า 10,000 คนถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ขณะที่อีก 9,500 คนถูกลักพาตัวโดยอิสราเอล ในการโจมตีฉนวนกาซ่าของอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม จำนวนผู้เสียชีวิตที่แก้ไขจากการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมอยู่ที่ 1,139 ราย และมีผู้ถูกจับกุมเป็นเชลยมากกว่า 200 ราย
• ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 48 รายเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซาเมื่อวันพุธ โดยเหยื่อเป็นเด็ก 9 ราย ตามรายงานของแพทย์
• เจ้าหน้าที่รายงานว่า อุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากเกิดระเบิดขึ้นอีกครั้งในเหตุโจมตีทั่วเลบานอนเป็นครั้งที่ 2 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และบาดเจ็บกว่า 450 ราย หนึ่งวันหลังจากที่เพจเจอร์ที่กลุ่มฮิซบุลลอฮฺใช้เกิดการระเบิดพร้อมกันของเพจเจอร์ที่กลุ่มฮิซบุลเลาะฮฺใช้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
• สภาบริหารของกลุ่มฮิซบุลเลาะฮฺกล่าวว่า กลุ่มดังกล่าวจะตอบโต้การโจมตีด้วย “การลงโทษพิเศษ” ในขณะที่นายอับดุลลอฮฺ บู ฮาบี๊บ รัฐมนตรีต่างประเทศเลบานอน เตือนว่า “การโจมตีอย่างโจ่งแจ้งต่ออำนาจอธิปไตยและความมั่นคงของเลบานอน” อาจ “ส่งสัญญาณถึงสงครามในวงกว้าง”
• โยอาฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลประกาศการเริ่มต้น “ระยะใหม่” ในสงคราม กล่าวหลังจากต่อสู้กับกลุ่มฮะมาสในฉนวนกาซ่ามาหลายเดือนว่า “จุดศูนย์ถ่วงกำลังเคลื่อนไปทางเหนือด้วยการเปลี่ยนทิศทางทรัพยากรและกองกำลัง”
• สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติลงมติอย่างท่วมท้นโดยเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์อย่างผิดกฎหมายภายในหนึ่งปี
• มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย มุฮัมหมัด บินซัลมาน กล่าวว่าราชอาณาจักรจะไม่สร้างความสัมพันธ์กับอิสราเอล จนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะบรรลุข้อตกลง “การฟื้นฟูความสัมพันธ์ปกติ”
• ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ยินดีกับจุดยืนของซาอุดีอาระเบียต่อความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอล โดยมะฮฺมูด อับบาส “แสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง” ต่อการที่มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียประกาศว่าราชอาณาจักรจะไม่ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอลหากไม่ได้จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้น ตามที่สำนักข่าววาฟารายงาน
• อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มฮิซบุลลอฮฺระเบิดขึ้นทั่วเลบานอนในช่วงไม่กี่วันติดต่อกันของอิสราเอล แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการระเบิดครั้งนี้คือพลเรือนในเลบานอน โดยการโจมตี“แบบไม่เลือกปฏิบัติ”ก่อให้เกิดผลกระทบทางจิตใจอย่างมากต่อผู้คนที่ใช้ชีวิตประจำวัน
• เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลเพื่อ “ทบทวนพัฒนาการด้านความมั่นคงในภูมิภาค” และย้ำถึง “การสนับสนุนอย่างไม่ลดละของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอลในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามต่างๆ
• กองทัพอิสราเอลได้ถอนตัวออกจากเมืองก๊อลกิลียะฮฺ ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง หลังจากเข้าโจมตีและจับกุมอดีตนักโทษชาวปาเลสไตน์ 3 คน และผู้หญิงอีก 1 คน ตามรายงานของเครือข่ายข่าวคุดส์และศูนย์ข้อมูลปาเลสไตน์
• พอล โรเจอร์ส ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านการศึกษาด้านสันติภาพจากมหาวิทยาลัยแบรดฟอร์ดในสหราชอาณาจักร เปิดเผยกับอัลญะซีเราะฮฺว่า เป็นที่ชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลไม่ต้องการหยุดยิง “ในรูปแบบใดๆ” กับกลุ่มฮะมาสหรือกลุ่มฮิซบุลลอฮฺก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน
• แคนาดาประกาศคว่ำบาตรกลุ่มฮะมาสเพิ่มเติมกรณี “ก่อการร้าย” เช่นเดียวกับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลหลายรายกรณี “ใช้ความรุนแรงสุดโต่ง” ต่อพลเรือนชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง
• ระเบิดของอิสราเอลโจมตีบ้านของครอบครัวชาฮีน ในพื้นที่อัลฟาคูเราะฮฺของค่ายญะบาลิยา ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ส่งผลให้สามีและภรรยาเสียชีวิต ตามรายงานของสำนักข่าวชิฮาบและศูนย์ข้อมูลปาเลสไตน์
• อัยมัน ซอฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน กล่าวหาอิสราเอลว่ากำลังผลักดันตะวันออกกลางทั้งหมด “เข้าสู่สงครามระดับภูมิภาค” ด้วยการรักษาระดับความรุนแรงที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างอันตรายในหลายแนวรบ