WORLD : คูเวตเอาจริง เจอสัญลักษณ์ LGBTQที่ไหนให้ปชช.แจ้งทางการ . คูเวตเรียกร้องให้ประชาชนรายงานการจั…
พลเรือน 2.7 หมื่นชีวิตหนีจากอิดลิบตามหลังการโจมตีอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลซีเรียและพันธมิตร
พลเรือนราว 27,000 คน ได้หนีออกจากบ้านของพวกเขาในจังหวัดอิดลิบซึ่งเป็นพื้นที่ลดความรุนแรงในตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียในช่วงวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเนื่องจากการถล่มพื้นที่โดยฝีมือของรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรรัสเซีย
นอกจากนี้ยังมีการโจมตีย่านอยู่อาศัยในพื้นที่ฝั่งตะวันออกและตอนใต้ของอะเลปโปซึ่งทำให้ชาวซีเรียหลายพันคนยังคงไร้ที่อยู่อาศัยและต้องอพยพออกจากพื้นที่
ตามรายงานของกลุ่มประสานงานตอบสนองในซีเรีย พลเรือนพลัดถิ่นเหล่านี้ได้มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ติดชายแดนตุรกีเนื่องจากการโจมตีเหล่านี้ที่ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างหว่างตุรกีกับรัสเซีย
มุฮัมมัด ฮัลลาจญ์ ผู้อำนวยการกลุ่มประสานงานฯ บอกกับสำนักข่าวอนาโดลูว่า พลเรือนหลบหนีออกจากบ้านของพวกเขาในเขตดาร็อตอิซซะฮ์และอีกหลายเมือง เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของรัฐบาลซีเรียที่มีรัสเซียสนับสนุน
เนื่องจากประชากรพลัดถิ่นที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เต้นท์ในค่ายผู้ลี้ภัยต่างๆ ในอิดลิบไม่สามารถจะรองรับพวกเขาได้อีกต่อไป แม้แต่พื้นที่สำหรับกางเต้นท์เพิ่มเติมก็ไม่มีเช่นกัน หลายพันครอบครัวอยู่ในสถานะที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างรุนแรง
ในเดือนกันยายน 2018 ตุรกีและรัสเซียบรรลุข้อตกลงกำหนดให้อิดลิบกลายเป็นพื้นที่ลดความรุนแรงที่ห้ามการรุกรานทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่นั้น มีพลเรือนกว่า 1,300 รายที่ถูกสังหารจากการโจมตีของรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรรัสเซีย และข้อตกลงหยุดยิงเหนือพื้นที่นี้ก็ถูกละเมิดมาโดยตลอด
ล่าสุดในวันที่ 10 มกราคม ตุรกีประกาศว่า ข้อตกลงหยุดยิงใหม่จะมีผลบังคับใช้ในเวลาเที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม
ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียก็ได้ประกาศหยุดยิงในอิดลิบซึ่งมีผลในเวลา 14:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
อย่างไรก็ตามกองทัพรัฐบาลซีเรียและกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนกลับเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารโจมตีพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ไม่สนใจข้อตกลงหยุดยิงใหม่ที่เพิ่งประกาศโดยทั้งตุรกีและรัสเซีย
ที่มา : ANADOLU