วอชิงตันระบุการสืบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับการสังหารไอเซนูร์”ไม่ได้ทำให้อิสราเอลพ้นผิด”
.
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ผลสืบสวนเบื้องต้นโดยทางการอิสราเอลเกี่ยวกับการสังหารไอเซนูร์ เอซกี เอย์กี พลเมืองอเมริกันในเขตเวสต์แบงก์ไม่ได้ทำให้กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลพ้นโทษแต่อย่างใด
.
มิลเลอร์เตือนว่าวอชิงตันจะพิจารณาใช้มาตรการอื่นๆ หากไม่มั่นใจกับผลการสอบสวนของอิสราเอลทั้งหมด และเสริมว่าสหรัฐฯ จะรอผลการสอบสวนทั้งหมดโดยคาดว่าจะรวดเร็ว ครอบคลุม และโปร่งใส
.
มิลเลอร์ปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่ากองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลให้คำมั่นกับเจ้าหน้าที่อเมริกันหรือไม่ว่าพวกเขาจะทำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นในกฎเกณฑ์การปฏิบัติการ
.
ไอเซนูร์ เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายตุรกี วัย 26 ปี เธอถูกสังหารเมื่อวันที่ 6 กันยายน ขณะเข้าร่วมในการประท้วงต่อต้านการขยายพื้นที่ตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งอิสราเอลยึดครองมาตั้งแต่ปี 1967
.
อิสราเอลยอมรับว่ากองกำลังของตนเปิดฉากยิงใส่พวกเขา แต่กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้ตั้งใจในระหว่างการประท้วงที่มีความรุนแรง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯแอนโธนี บลิงเคน กล่าวถึง การสังหารไอเซนูร์ว่าวช “ไม่ยุติธรรมและเกิดขึ้นโดยไม่มีการยั่วยุ” โดยเรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลปรับเปลี่ยนวิธีที่กองกำลังของตนปฏิบัติการในเขตเวสต์แบงก์
.
สำหรับกองทัพอิสราเอล ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้บัญชาการได้ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว และพบว่าเหตุยิงไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ไอเซนูร์ แต่เป็นบุคคลอื่นที่เขาอธิบายว่าเป็น “ผู้ยุยงให้เกิดการจลาจล”
.
ในส่วนของเธอ ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ ผู้แทนถาวรสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ กล่าวถึงการสังหารนักเคลื่อนไหวชาวตุรกี-อเมริกันรายนี้ด้วยการยิงของกองทัพอิสราเอลว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าสยดสยอง โดยเน้นว่าประเทศของเธอจะยังคงร้องขอรายละเอียดเพิ่มเติมต่อเทลอาวีฟต่อไป
.
ในทางกลับกัน ริยาด มันซูร์ ผู้แทนถาวรปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า นักเคลื่อนไหว ไอเซนูร์เป็นผู้พลีชีพเพื่อชาวปาเลสไตน์
.
เมื่อวันศุกร์ ศพของนักเคลื่อนไหวเดินทางถึงตุรกี ซึ่งเธอถูกฝังเมื่อวันเสาร์ หลังจากประกอบพิธีละหมาดญะนาซะฮฺ หลังจากละหมาดดุฮฺริที่มัสยิดกลางในบ้านเกิดของเธอในภูมิภาคดิดิม ทางตะวันตกของประเทศ
.
การโจมตีของผู้ตั้งถิ่นฐานที่เพิ่มมากขึ้นต่อชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ได้สร้างความไม่พอใจให้กับพันธมิตรของอิสราเอลในโลกตะวันตก รวมถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อผู้ตั้งถิ่นฐานบางราย
