.
ประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร แห่งโคลอมเบีย ประณามความเงียบเกี่ยวกับสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซ่า และยืนกรานว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กำลังเกิดขึ้นในปาเลสไตน์
.
“ใครก็ตามที่ปกป้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งนี้หรือไม่พูดอะไรเลยเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์นี้ เท่ากับได้ทำลายสภาพความเป็นมนุษย์ของตนเอง” เปโตรกล่าวทาง X เมื่อวันอาทิตย์
.
“ดูเหมือนว่า (โจเซฟ เกิบเบลส์ รัฐมนตรีโฆษณาชวนเชื่อของนาซี) เป็นคนกำหนดทิศทางการสื่อสารของโลก เพื่อให้บรรดานักข่าวหลายหมื่นคนต้องเงียบเสียงเมื่อเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมงานที่ถูกสังหาร และเด็กทารก 20,000 คนที่ถูกระเบิดฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย” เขากล่าวเสริม
.
เขายังประณามการที่กองทัพอิสราเอลบุกโจมตีสำนักงานเวสต์แบงก์ของเครือข่ายข่าวโทรทัศน์อัลญะซีเราะฮฺที่ยึดครองในเมืองรามัลลอฮฺเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งกองทัพได้สั่งปิดสำนักงานดังกล่าวเป็นเวลา 45 วัน
.
ความคิดเห็นของประธานาธิบดีดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากเดโบราห์ ลิปสตัดท์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ เพื่อตรวจสอบและปราบปรามลัทธิต่อต้านชาวยิว ตั้งคำถามถึงคำวิจารณ์ของเปโตรต่อการบุกโจมตีของกองทัพอิสราเอลในฉนวนกาซ่า
.
“การที่ประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตรยังคงใช้ถ้อยคำรุนแรงเช่นนี้ทำให้การต่อต้านชาวยิวเป็นเรื่องปกติ เราไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้ เราไม่สามารถทนต่อสิ่งนี้ได้ เราต้องประณามเรื่องเล่าที่ก่อให้เกิดอันตรายเหล่านี้” ลิปสตัดท์กล่าวในข้อความที่เผยแพร่บนบัญชีโซเชียลมีเดียของสถานทูตสหรัฐฯ ในโบโกตา
.
เปโตรตอบกลับลิปสตัดท์ในบัญชี X ของเขา “ท่านเอกอัครราชทูต ชาวปาเลสไตน์เป็นเซมิติก…การฆ่าเด็กด้วยการทิ้งระเบิดในฉนวนกาซ่าก็ถือเป็นการต่อต้านชาวยิว …แต่ทำไมท่านไม่ได้ต่อต้านการกระทำดังกล่าว
สิ่งที่เป็นการต่อต้านชาวยิวมากที่สุดในปัจจุบันคือการทำซ้ำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของฮิตเลอร์ต่อมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชาวปาเลสไตน์
.
“ผมไม่ใช่พวกต่อต้านชาวยิว อย่าสับสนและเคารพผม ผมไม่ใช่พวกต่อต้านชาวยิว ผมเชื่อในเสรีภาพทางศาสนา และหากผมเกิดในยุคนั้น ผมคงสละชีวิตเพื่อต่อต้านพวกนาซีด้วยอาวุธ แต่ผมเชื่อในเสรีภาพที่กฎหมายระหว่างประเทศสร้างขึ้น ซึ่งเป็นเสรีภาพที่สร้างขึ้นหลังจากฮิตเลอร์พ่ายแพ้ต่ออเมริกาและโซเวียต รวมถึงต่อผู้คนทั้งโลก นั่นคือมนุษยชาติ” เขากล่าว
.
อิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารทำลายล้างในฉนวนกาซ่าเพื่อตอบโต้การโจมตีของกลุ่มฮะมาสในปาเลสไตน์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,200 ราย
.
ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วกว่า 41,400 ราย ประชากรกว่า 2.3 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย และหลายคนกำลังอดอาหารท่ามกลางภัยพิบัติทางมนุษยธรรมที่เลวร้ายลง