ครอบครัวชาวปาเลสไตน์คริสเตียนในเบธเลเฮมต่อสู้กับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลที่พยายามยึดแผ่นดินบ้านเกิด
.
ครอบครัวคิซิยาซึ่งเป็นชาวคริสต์ต่อสู้มาเป็นเวลา 12 ปีเพื่อหยุดยั้งผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลไม่ให้ยึดครองที่ดินของพวกเขาในหุบเขามัครูร ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเบธ ญาลา บนภูเขาที่งดงามตระการตาใกล้กับเมืองเบธเลเฮม
.
“เรามีเอกสาร ของทั้งปาเลสไตน์และอิสราเอลเพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่ดินนี้” อลิซ คิซิยาลูกสาวของเจ้าของที่ดินและนักเคลื่อนไหวที่มีชื่อเสียงต่อต้านการตั้งถิ่นฐานที่ผิดกฎหมายของอิสราเอล กล่าวกับ The New Arab
.
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองกำลังอิสราเอลได้ทำลายค่ายประท้วงที่จัดตั้งโดยครอบครัวคิซิยาด้วยการสนับสนุนจากความสามัคคีนานาชาติและนักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพของอิสราเอลใกล้กับแปลงที่ดินขนาด 1,000 ตารางเมตรที่ถูกยึดครองโดยผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลอย่างผิดกฎหมายเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทหารอิสราเอล ตามที่ครอบครัวคิซิยากล่าว
.
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝ่ายขวาจัดของอิสราเอล ประกาศทางสถานี X ว่าเขาได้อนุมัติการตั้งถิ่นฐานผิดกฎหมายแห่งใหม่บนแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกใกล้เมืองเบธเลเฮมในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง โดยเขากล่าวว่านิคมแห่งใหม่ Nahal Heletz จะเป็นส่วนหนึ่งของ Gush Etzion ซึ่งเป็นกลุ่มนิคมผิดกฎหมายทางตอนใต้ของเยรูซาเล็ม
.
นิคมทั้งหมดของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ซึ่งถูกยึดครองมาตั้งแต่ปี 1967 และปัจจุบันมีผู้อพยพชาวอิสราเอลอาศัยอยู่ประมาณ 700,000 คน ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะมีใบอนุญาตการวางผังเมืองจากอิสราเอลหรือไม่ก็ตาม
.
สโมทริช กล่าวว่าข้อตกลงนี้เป็นหนึ่งในห้าข้อตกลงที่รัฐบาลอนุมัติเมื่อสองเดือนก่อนในเวสต์แบงก์ เพื่อตอบโต้มาตรการที่ทางการปาเลสไตน์ (PA) กล่าวหาต่ออิสราเอล และการรับรองรัฐปาเลสไตน์โดยฝ่ายเดียวโดยประเทศตะวันตก
.
ในเดือนพฤษภาคม นอร์เวย์ สเปน สโลวีเนีย และไอร์แลนด์รับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการตามมาด้วยอาร์เมเนียในเดือนมิถุนายน
.
การยอมรับเหล่านี้เป็นปฏิกิริยาต่อสงครามที่อิสราเอลกำลังทำกับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่าโดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อกลุ่มฮะมาสโจมตีแบบกะทันหันจนทำให้ชาวอิสราเอลเสียชีวิตมากกว่า 1,200 ราย
.
ตามข้อมูล ของสหประชาชาติ ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 40,878 คนเสียชีวิตและ 94,454 คนได้รับบาดเจ็บจากการถูกอิสราเอลสังหารระหว่างสงคราม ซึ่งรวมถึงเด็กมากกว่า 16,000 คน ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 10,000 คนสูญหาย ผู้คน 1.7 ล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานท่ามกลางการทำลายล้างครั้งใหญ่และยังมีรายงานการขาดแคลนอาหารที่รุนแรงโรคที่ระบาดรุนแรง และล่าสุดคือโรคโปลิโอระบาด
.
ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการของสหประชาชาติกล่าวว่าอิสราเอลได้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในระหว่างสงคราม
.
ตามรายงานของขบวนการซ้ายจัดของอิสราเอลที่มีชื่อว่า Peace Now รัฐบาลอิสราเอลกำลังก่อสร้างนิคมแห่งใหม่ที่เป็นอันตรายในใจกลางความต่อเนื่องทางภูมิศาสตร์ของชาวปาเลสไตน์ที่เมืองเบธเลเฮม บนดินแดนที่ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของชาวปาเลสไตน์
.
มีการเตือนว่า “การตั้งถิ่นฐานที่จะก่อตั้งขึ้นจะถูกจำกัดอยู่ในใจกลางดินแดนปาเลสไตน์และจะนำไปสู่ความขัดแย้งและความท้าทายด้านความปลอดภัยมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
.
ขบวนการที่ติดตามกิจกรรมการตั้งถิ่นฐานในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ได้ระบุเมื่อเร็วๆ นี้ในรายการ X ว่า “สโมทริชยังคงส่งเสริมการผนวกดินแดนเวสต์แบงก์โดยพฤตินัย”
.
ในคำพิพากษาสำคัญเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศประกาศว่าการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอลเป็นเวลา 76 ปีเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้อพยพออกจากถิ่นฐานที่มีอยู่ทั้งหมดในเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออก
.
เรื่องราวครอบครัว
อลิซ คิซิยา บอกกับ TNA ว่าที่ดินที่ถูกยึดเป็นส่วนหนึ่งของสวรรค์ “พ่อของฉันสร้างร้านอาหารในชนบทที่มองเห็นหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นมะกอกและสวนองุ่น โดยมีภูเขาเยรูซาเล็มเป็นฉากหลัง นับเป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยว”
.
“แต่กลุ่ม(อิสราเอล)ผู้ยึดครองไม่ชอบใจเรื่องนี้ จึงทำลายมันไป 4 ครั้ง ครั้งแรกในปี 2012 ต่อมาในปี 2013 หลังจากที่เราสร้างมันขึ้นมาใหม่ และครั้งที่สองในปี 2015 และ 2016 พวกเขาทำลายบ้านและร้านอาหารอีกครั้งในปี 2019”
.
ตั้งแต่ปี 2019 กองทัพอิสราเอลได้ดำเนินการรื้อถอนโครงสร้างที่สร้างขึ้นบนที่ดินดังกล่าวแล้ว 20 ครั้ง
.
คิซิยาบอกว่าครอบครัวของเธอต่อสู้กับการรื้อถอนในศาลและในสถานที่มานานกว่า 12 ปี
.
“ฉันเคยอาศัยอยู่ที่นี่ในวัยเด็ก มีความทรงจำที่สวยงามและขมขื่น แต่จู่ๆ ชีวิตก็เปลี่ยนไป ตอนนี้เราไม่สามารถเหยียบแผ่นดินของตัวเองได้ เพราะผู้ตั้งถิ่นฐานได้ขโมยมันไป”
.
คิซิยากล่าวว่าอิสราเอลได้ประกาศให้ดินแดนดังกล่าวเป็นเขตทหาร ตามคำตัดสินของศาลกลางในเยรูซาเล็มที่ยืนยันสิทธิ์ของผู้ตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ดังกล่าว โดยที่ครอบครัวคิซิยาอ้างว่าเป็นข้อมูลเท็จและปลอม
“ปัจจุบันนี้ ผู้ว่าการทหารของอิสราเอลและรัฐบาลฝ่ายขวาจัดกำลังตัดสินใจขยายการตั้งถิ่นฐานและย้ายผู้อยู่อาศัยที่ถูกต้องตามกฎหมายออกไป” คิซิยา กล่าว
.
เธอกล่าวว่าเป้าหมายของอิสราเอลไม่ใช่แค่การควบคุมพื้นที่ 1,000 ตารางเมตรนี้เท่านั้น แต่รวมถึงการควบคุมภูเขาและพื้นที่โดยรอบเพื่อการตั้งถิ่นฐานด้วย
.
เธอชูเอกสารที่เธอระบุว่าเป็น “โฉนด” ของที่ดินของเธอที่ออกโดยทางการอิสราเอล
