บรรษัทกระจายเสียงสาธารณะแห่งอิสราเอล (KAN) ระบุเมื่อวันอังคารว่า ได้บรรลุข้อตกลงฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับวิธีการ จังหวะเวลา และความเข้มแข็งของการตอบโต้การโจมตีของอิหร่านระหว่างการปรึกษาหารือด้านความปลอดภัย
.
นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่าแผนการโจมตีอิหร่านกำลังรอการอนุมัติจากสภารัฐมนตรีชุดเล็กในการดำเนินการ
สิ่งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความคาดหวังว่าอิสราเอลจะดำเนินการโจมตีในไม่ช้าเพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้
.
ด้านหนังสือพิมพ์เยดิโอธ อาโรนอธ รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้จัดการประชุมลับเมื่อเย็นวันอาทิตย์กับผู้บัญชาการทหารบกและหน่วยข่าวกรอง เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการโจมตีอิหร่าน
.
หนังสือพิมพ์ดังกล่าวยืนยันว่าการประชุมลับดังกล่าวประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู รัฐมนตรีกลาโหม ยูอาฟ กัลลันต์ และเสนาธิการเฮอร์ซี ฮาเลวี และจัดขึ้นที่ฐานข่าวกรอง
.
ในระหว่างการโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ที่สุด อิหร่านได้ปล่อยขีปนาวุธประมาณ 200 ลูก และกล่าวว่าเป็นการตอบโต้การลอบสังหารผู้นำขบวนการฮะมาส อิสมาอีล ฮานียะฮฺในกรุงเตหะรานเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม เช่นเดียวกับการลอบสังหารผู้นำกลุ่มฮิซบุลลฮฺ ฮัซซัน นัสรุลลอฮฺ พร้อมด้วยนายพลในหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติ (อิหร่าน) ในการจู่โจมของอิสราเอลที่ชานเมืองทางตอนใต้ของเบรุต
.
หลังจากการทิ้งระเบิดขีปนาวุธของอิหร่าน ซึ่งเป็นการโจมตีครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึง 6 เดือนต่ออิสราเอล รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ยูอาฟ กาลันท์ ให้คำมั่นที่จะดำเนินการโจมตีอิหร่าน “รุนแรง แม่นยำ และฉับพลัน”
.
ในขณะที่พันธมิตรของเนทันยาฮูในรัฐบาลเรียกร้องให้โจมตีโรงงานนิวเคลียร์และน้ำมันของอิหร่าน วอชิงตันกำลังทำงานเพื่อลบโรงงานเหล่านั้นออกจากรายการเป้าหมายที่เป็นเป้าหมายของการโจมตีที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และเพิ่มความเป็นไปได้ ของการปะทุของสงครามระดับภูมิภาค
.
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่เมื่อวันอังคารว่า เนทันยาฮูแจ้งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ทราบ ระหว่างคุยโทรศัพท์ระหว่างพวกเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าอิสราเอลจะโจมตีโรงงานทางทหาร ไม่ใช่น้ำมันหรือนิวเคลียร์ ในอิหร่าน
แม้ว่าไบเดนกล่าวว่าเขาจะไม่สนับสนุนการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ความตึงเครียดในตลาดน้ำมันก็ยังคงมีอยู่ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะอิสราเอลโจมตีแหล่งน้ำมันในอิหร่าน
.
นักวิเคราะห์เชื่อว่าการโจมตีของอิสราเอลต่อโรงงานผลิตน้ำมันของอิหร่านอาจนำไปสู่ราคาพลังงานที่สูงขึ้น ในขณะที่การโจมตีโครงการวิจัยนิวเคลียร์สามารถลบเส้นสีแดงที่เหลืออยู่ซึ่งควบคุมความขัดแย้งของอิสราเอลกับเตหะราน นำไปสู่การบานปลายและเสี่ยงต่อบทบาททางทหารของสหรัฐฯ โดยตรงมากขึ้น
