อิสมาอีล ฮะนียะฮฺ หัวหน้าสำนักการเมืองของกลุ่มฮะมาส กล่าวสุนทรพจน์ในโอกาสครบรอบ 76 ปีของการขับไล่ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากออกจากบ้านเกิด หรือที่รู้จักกันในชื่อนักบะฮฺ (วันแห่งหายนะ) เกี่ยวกับความแน่วแน่และความเสียสละอันแข็งแกร่งของชาวปาเลสไตน์ในการขัดขวางแผนการสมรู้ร่วมคิดที่เป็นอันตรายของอิสราเอล
.
ฮะนียะฮฺยังย้ำจุดยืนของขบวนการเกี่ยวกับการเจรจาสงบศึกที่ประสบทางตันอีกครั้ง
“ข้อตกลงใดๆ จะต้องรับประกันการหยุดยิงถาวร การถอนกำลังทหารอิสราเอลออกจากทุกภาคส่วนในฉนวนกาซ่า ข้อตกลงที่แท้จริงสำหรับการแลกเปลี่ยนนักโทษ การส่งคืนผู้พลัดถิ่น การบูรณะและการยกเลิกปิดล้อมฉนวนกาซ่า” ฮะนียะฮฺกล่าว
.
ในทางกลับกัน หัวหน้ากลุ่มฮะมาสกล่าวว่า ขบวนการนี้จะมีส่วนร่วมในการตัดสินการปกครองหลังสงครามในฉนวนกาซ่า ร่วมกับกลุ่มปาเลสไตน์อื่นๆ
“เราบอกว่าขบวนการฮะมาสยังคงอยู่ตรงนี้ … และมันจะเป็นขบวนการและกลุ่มชาติ (ปาเลสไตน์) ทั้งหมดที่จะเป็นผู้ตัดสินการปกครองหลังสงครามในฉนวนกาซ่า” ฮะนียะฮฺกล่าวในคำปราศรัยทางโทรทัศน์
.
นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่าชะตากรรมของการเจรจาสงบศึกนั้นไม่แน่นอน เนื่องจากอิสราเอล “ยืนกรานที่จะยึดครองจุดผ่านแดนรอฟะฮฺและขยายการรุกราน” ในดินแดนปาเลสไตน์ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม
.
เขาตำหนิอิสราเอลที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักในปัจจุบัน โดยกล่าวว่า การแก้ไขข้อเสนอหยุดยิงในฉนวนกาซ่าที่เสนอโดยผู้ไกล่เกลี่ยอย่างกาตาร์และอียิปต์ทำให้การเจรจาเข้าสู่ทางตัน
.
ฮะนียะฮฺกล่าวว่า ขบวนการของเขามุ่งมั่นที่จะดำเนินการทุกวิถีทางที่มีอยู่เพื่อยุติสงครามในฉนวนกาซ่า โดยเปิดประตูทิ้งไว้สำหรับความพยายามในการไกล่เกลี่ยมากขึ้น แต่เขายึดมั่นในข้อเรียกร้องหลักของขบวนการ
.
ฮะนียะฮฺยังกล่าวอีกว่าอิสราเอลกำลังทำให้เชลยศึกตกอยู่ในอันตรายโดยการทำสงครามกับฉนวนกาซ่าต่อไป
“การที่ศัตรูยืนกรานที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยการรุกรานของรอฟะฮฺ ทำให้การเจรจาทั้งหมดตกอยู่ในอันตราย” เขากล่าวเสริม
คำปราศรัยของฮะนียะฮฺถือเป็นวันครบรอบ 76 ปีของ “นักบะฮฺ” เมื่อชาวปาเลสไตน์ประมาณ 760,000 คน ต้องถูกขับออกจากบ้านเกิดของตนระหว่างการสถาปนาอิสราเอลในปี 1948