เจ้าหน้าที่ UN ระบุสงครามในฉนวนกาซ่าเป็นการท้าทายความมุ่งมั่นของโลกต่อ “ระเบียบกฎหมายระหว่างประเทศ”
.
จอยซ์ มซูยา รักษาการรองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายกิจการด้านมนุษยธรรม ได้แจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถึงความยากลำบากแสนสาหัสในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนสิ้นหวังในฉนวนกาซ่า และคำสั่งของอิสราเอลให้ย้ายถิ่นฐานโดยใช้กำลังจากประชาชนที่ “ดูเหมือนจะไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ”
.
“เราไม่สามารถวางแผนล่วงหน้าได้นานกว่า 24 ชั่วโมง เพราะเราไม่ทราบว่าจะมีสิ่งของอะไรบ้าง จะมีเมื่อใด หรือจะส่งมอบได้ที่ไหน” มซูยากล่าวกับ UNSC
.
“พลเรือนหิวโหย กระหายน้ำ เจ็บป่วย ไร้บ้าน พวกเขาถูกผลักดันให้ทนทุกข์ทรมานเกินกว่าที่มนุษย์คนใดจะทนได้” เธอกล่าว
.
มซูยา กล่าวว่า “ดินแดนของฉนวนกาซามากกว่า 88 เปอร์เซ็นต์ได้รับคำสั่งจากอิสราเอลให้อพยพในบางจุด” และเสริมว่าพลเรือน “ที่อยู่ในสภาพไร้จุดหมาย” ถูกบังคับให้เข้าไปในพื้นที่ที่มีพื้นที่เทียบเท่ากับเพียง 11 เปอร์เซ็นต์ของฉนวนกาซ่าเท่านั้น
.
“สิ่งที่เราได้เห็นในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา … ตั้งคำถามถึงความมุ่งมั่นของโลกต่อระเบียบกฎหมายระหว่างประเทศที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมเหล่านี้” เธอกล่าวเสริม
.
“มันบังคับให้เราถามว่า: แล้วความรู้สึกพื้นฐานของเราเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ล่ะเป็นอย่างไรบ้าง?”
