ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของฉนวนกาซ่า กำลังเผชิญกับมลพิษจากน้ำเสียที่ไม่ได้รับการบำบัด ทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นการปล่อยน้ำเสียจำนวนมากนอกชายฝั่งดีรร์ อัลบะละฮฺ อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของผู้พลัดถิ่น และการเชื่อมต่อท่อระบายน้ำเข้ากับระบบระบายน้ำฝน น้ำเสียที่รั่วไหลครอบคลุมพื้นที่กว่า 2 ตารางกิโลเมตร และยังไม่แน่ชัดว่ามลพิษยังคงแพร่กระจายต่อไปหรือไม่
ขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานด้านสุขาภิบาลของฉนวนกาซ่า ถูกทำลายอย่างรุนแรงจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล สถานการณ์น้ำในกาซาแย่ลงอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากโรงบำบัดน้ำเสียที่ให้บริการแก่ประชาชนถูกทำลาย แม้หน่วยงานทหารอิสราเอลอ้างว่ามีการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย แต่การอ้างสิทธิ์นี้ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากมีการจำกัดการเข้าถึงกาซา
ความเสี่ยงของโรคที่เกิดจากน้ำเพิ่มขึ้นอย่างมากในกาซ่า หลังจากมีการพบกรณีโรคโปลิโอในเด็กอายุ 10 เดือน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี หน่วยงานด้านสุขภาพเรียกร้องให้อิสราเอล ยอมให้มีการหยุดยิงทางมนุษยธรรมเพื่อดำเนินการฉีดวัคซีนในพื้นที่ แต่สถานการณ์ด้านสุขาภิบาลที่แย่ลงในกาซ่าอาจทำให้วิกฤตสุขภาพยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ส่วนองค์กร Oxfam รายงานว่าหนึ่งในสี่ของประชากรในกาซ่าล้มป่วยด้วยโรคที่เกิดจากน้ำ