ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาเตือนว่า สถานการณ์มลพิษทางอากาศในกาซากำลังทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอล ทำให้สารเคมีและฝุ่นจากซากปรักหักพังปนเปื้อนในอากาศ ทำให้ผู้คนจำนวนมากเกิดปัญหาทางเดินหายใจอย่างรุนแรง รวมถึงโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน (ARI) ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) บันทึกผู้ป่วยกว่า 995,000 รายในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าตัวเลขนี้ต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์
ดร.ริยาด อาบู ชามาลา ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก ในกาซา แสดงความกังวลว่าสถานการณ์มลพิษในกาซาจะทำให้มีการเกิดโรคมะเร็งปอด และความผิดปกติทางพันธุกรรมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อโรงพยาบาลกลับมาให้บริการอีกครั้ง หลังจากที่ถูกทำลายในการโจมตี นอกจากนี้การขาดสุขอนามัยและคุณภาพน้ำที่ปนเปื้อน ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อการเจ็บป่วย
สาเหตุหลักของมลพิษทางอากาศในกาซามาจากฝุ่น สารเคมีที่ถูกปล่อยจากการระเบิด และการใช้น้ำมันพืชแทนดีเซลเพื่อการขนส่ง ประชาชนและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องทำงานและใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษ โดยไม่มีเครื่องมือป้องกันที่เหมาะสม ทำให้ปัญหาทางเดินหายใจยิ่งเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ความแออัดในค่ายผู้ลี้ภัยและสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้วิกฤตสุขภาพนี้รุนแรงยิ่งขึ้น