พ่อค้าเร่ชาวอิหร่านจำนวนมาก เดินทางข้ามพรมแดนผ่านด่านชาลัมจาเข้าสู่อิรักทุกสัปดาห์ นำสินค้าจำเป็นอย่างไก่ ไข่ น้ำมันทำอาหารและของใช้ในครัวเรือนมาขายที่ตลาดบัสเราะห์ หนึ่งในพ่อค้าเหล่านี้ ทำเงินได้ 30-50 ดอลลาร์ต่อวัน จากการขายผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งมากกว่าที่เขาทำได้ในอิหร่านมาก เนื่องจากเงินริยาลอิหร่านที่มีค่าตกต่ำ ทำให้เขาสามารถใช้จ่ายได้ถึงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากพยายามขายในตลาดท้องถิ่นของอิหร่านแล้วไม่ประสบความสำเร็จ
มาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯ นำกลับมาใช้ในปี 2018 ทำให้เศรษฐกิจอิหร่านทรุดหนัก ค่าเงินดิ่งลง เงินเฟ้อพุ่งสูงกว่า 32% และการว่างงานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดชายแดนกลายเป็นที่พึ่งสำหรับผู้ค้ารายย่อย รวมถึงผู้หญิงและผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยสินค้าจากอิหร่านได้รับความนิยมในอิรัก เพราะคุณภาพดีและราคาถูกกว่า
อิหร่านและอิรักมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้น มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศสูงถึงหลายหมื่นล้านดอลลาร์ อิรักเป็นผู้นำเข้าสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันของอิหร่านรายใหญ่อันดับสอง ความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม ระหว่างบัสเราะห์กับจังหวัดคูเซสถานของอิหร่าน ที่ผู้คนพูดภาษาอาหรับและมีค่านิยมทางวัฒนธรรมร่วมกัน ช่วยเอื้อให้การค้าข้ามพรมแดนเติบโต แม้พ่อค้าจะต้องเผชิญความยากลำบาก แต่พวกเขายอมเสี่ยงเพื่อรายได้ที่ดีกว่า