เทศบาลในเยรูซาเล็มภายใต้การควบคุมของอิสราเอล ได้ดำเนินการรื้อถอนบ้าน 7 หลังในย่านซิลวาน ซึ่งตั้งอยู่ในเยรูซาเล็มตะวันออกที่ถูกยึดครอง ตามคำสั่งศาลอิสราเอลที่ระบุว่าบ้านเหล่านี้สร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากอยู่ในเขตพื้นที่ที่ถูกกำหนดเป็น “เขตสีเขียว” หรือพื้นที่สาธารณะ ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 40 คน รวมทั้งเด็ก ๆ ต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยและกลายเป็นคนไร้บ้าน เหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอล
ฟาคริ อาบู เดียบ นักเคลื่อนไหวชาวปาเลสไตน์และหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า บ้านของเขาถูกทำลายอีกครั้งในปีนี้หลังจากที่เขาเพิ่งปรับปรุงใหม่ นอกจากนี้ บ้านของครอบครัวลูกชายของเขา บ้านของครอบครัวไฮแธม อายัด และบ้านของครอบครัวอัล-รูไวดีอีก 4 หลัง ก็ได้รับผลกระทบจากการรื้อถอนครั้งนี้เช่นกัน องค์กรสิทธิมนุษยชนระบุว่า การรื้อถอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลฝ่ายขวาของอิสราเอล
พร้อมระบุเพิ่มเติมว่าการรื้อถอนย่านอัล-บุสตัน และขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากพื้นที่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเปลี่ยนแปลงย่านซิลวานให้กลายเป็นสวนสาธารณะ เพื่อเชื่อมต่อชุมชนชาวยิวที่ตั้งอยู่กระจัดกระจายเข้าด้วยกัน การกระทำนี้มุ่งลดสัดส่วนประชากรชาวอาหรับในพื้นที่ และปรับเปลี่ยนโครงสร้างประชากรเพื่อเอื้อต่อชาวยิวที่ตั้งถิ่นฐาน โดยวิพากษ์ว่าอิสราเอลใช้สถานการณ์สงครามในกาซาและเลบานอน รวมถึงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ มาเป็นโอกาสในการดำเนินการ