White Channel

WORLD: ในดินแดนทะเลทรายรกร้างบริเวณชายแดนซีเรียติดกับอิรักและจอร์แดน มีคนหลายพันคนติดอยู่ในค่ายรุกบานที่อยู่ห่างไกล และไม่สามารถกลับบ้านได้หลังจากหนีจากระบอบการปกครองและกลุ่มติดอาวุธเมื่อหลายปีก่อน พวกเขามาถึงค่ายรุกบาน และหวังว่าจะได้กลับบ้านภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่ 8 ปีต่อมา พวกเขายังคงติดอยู่ในค่ายทะเลทรายอันห่างไกล ถูกกักขังจากส่วนอื่นๆ ของประเทศ

.

รัฐบาลดามัสกัสไม่ค่อยยอมให้ความช่วยเหลือเข้ามา และประเทศเพื่อนบ้านได้ปิดพรมแดนไปยังพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งได้รับการคุ้มกันจากกองกำลังซีเรียจากเขตลดความขัดแย้งโดยฐานทัพพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ใกล้เคียง

.

คอลีด ตำรวจแปรพักตร์ วัย 50 ปี ซึ่งเขาเปิดเผยเพียงชื่อจริงเนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย กล่าวว่า “เราติดอยู่ระหว่าง 3 ประเทศ เราไม่สามารถออกเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ของซีเรียได้ เพราะเราเป็นที่ต้องการตัวของฝ่ายรัฐบาล และเราไม่สามารถหนีไปจอร์แดนหรืออิรักได้เพราะปิดพรมแดนแล้ว”

.

ค่ายแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ในช่วงที่สงครามซีเรียกำลังดำเนินอยู่รุนแรงถึงขีดสุด ในขณะที่ผู้คนที่สิ้นหวังหนีจากกลุ่มติดอาวุธและการทิ้งระเบิดของฝ่ายรัฐบาลด้วยความหวังว่าจะข้ามไปยังจอร์แดน ณ ตอนนั้น มันสามารถรองรับผู้คนได้มากกว่า 100,000 คน แต่จำนวนคนได้ลดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่จอร์แดนปิดพรมแดนส่วนใหญ่ในปี 2016

.

นับตั้งแต่นั้นมา ผู้คนจำนวนมากได้กลับไปยังพื้นที่ที่รัฐบาลปกครองเพื่อหนีจากความหิวโหย ความยากจน และการขาดการรักษาพยาบาล สหประชาชาติยังได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับโดยสมัครใจด้วยความช่วยเหลือของสภาเสี้ยววงเดือนแดงอาหรับซีเรีย ขบวนรถเพื่อมนุษยธรรมของสหประชาชาติขบวนสุดท้ายมาถึงค่ายในปี 2019 และบรรยายสภาพที่นั่นในขณะนั้นว่า “สิ้นหวัง”

.

ปัจจุบัน มีผู้อยู่อาศัยเพียงประมาณ 8,000 คนเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในบ้านอิฐโคลน โดยมีอาหารและสิ่งของจำเป็นพื้นฐานถูกลักลอบนำเข้ามาในราคาที่สูง ชาวบ้านกล่าวว่า แม้แต่สิ่งของที่ขาดแคลนเหล่านั้นก็เสี่ยงที่จะขาดแคลนขึ้นอีก เนื่องจากรัฐบาลได้ปิดกั้นเส้นทางลักลอบขนสินค้าไปยังค่ายเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว ที่มา: Arabnews

error: ขอบคุณที่ติดตามครับ