องค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติ สำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) ระบุว่าการแพร่ระบาดของหนูและแมลงในฉนวนกาซา เป็นผลมาจากการที่ขยะสะสมมากขึ้น เนื่องจากอิสราเอลเข้ายึดครองหลุมฝังกลบหลักสองแห่งของพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถจัดการกับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นได้ ส่งผลให้สภาพสุขอนามัยในพื้นที่แย่ลงอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น
แม้ว่าจะมีการเริ่มต้นรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอในกาซาแล้ว แต่สถานการณ์การแพร่กระจายของโรคอื่นๆ ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากความไม่สะอาดและการขาดแคลนสิ่งจำเป็นพื้นฐานอย่างน้ำสะอาดและยารักษาโรค UNRWA พยายามให้การช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว และพยายามป้องกันไม่ให้สัตว์พาหะ เช่น หนูและแมลง เข้าไปในพื้นที่พักพิงที่มีประชากรหนาแน่น
ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดยิงทันที แต่การโจมตีในกาซายังคงดำเนินต่อไป ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 41,300 ราย และบาดเจ็บกว่า 95,550 คน ประชากรเกือบทั้งหมดของฉนวนกาซาต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น และเผชิญกับการขาดแคลนอาหาร น้ำสะอาด และยารักษาโรค ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดวิกฤติด้านสุขภาพในพื้นที่