White Channel

4 เสือโรงพักมูโนะ ถูกเด้งย้ายด่วนให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.ภ.จว.นราธิวาส เซ่นเหตุโกดังพลุระเบิด

SOUTH : 4 เสือโรงพักมูโนะ ถูกเด้งย้ายด่วนให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.ภ.จว.นราธิวาส เซ่นเหตุโกดังพลุระเบิด ขณะที่ทางด้าน 2 สามีภรรยาเจ้าของโกดัง ตร.ประกาศออกหมายจับ พร้อมประสานฝั่งมาเลเซียช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี
.
2 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายตำรวจที่มีตำแหน่งเป็น “4 เสือ” สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่ถูกคำสั่งย้ายด่วนให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.ภ.จว.นราธิวาส เพราะอาจจะมีส่วนรับส่วยจากเจ้าของโกดังที่เกิดระเบิดตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ สำหรับ 4 เสือ สภ.มูโนะ ประกอบด้วย พ.ต.อ.สุเชาวว์ ธารีไทย ผกก. พ.ต.ท.อาลี วาเด็ง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.จรัส อินทราช สว.ส และ พ.ต.ต.ณ เชษฐ์ มณีโรจน์ สวป.
.
โดย พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแต่งตั้งผู้รักษาการทั้ง 4 ตำแหน่งโดยเร็ว เพราะต้องเร่งดำเนินการงานสืบสวนสอบสวน และรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่

ส่วนในการดำเนินการกับผู้เป็นเจ้าของโกดัง 2 สามีภรรยา คือ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ หรือเจ๊หลิน และนายสมปอง ณ พล หรือเสี่ยไหว ที่ไม่มาพบกับพนักงานสอบสวนตามที่นัดหมายเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้ออกหมายจับแล้ว และทราบว่าทั้ง 2 อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะได้มีการประสานกับตำรวจของประเทศมาเลเซียให้ช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ทั้ง 2 สามีภรรยาเจ้าของโกดังเก็บพลุที่ระเบิดหลบหนีไปอยู่กับผู้ใหญ่ในประเทศมาเลเซียที่รัฐเปอร์ลิส และจากการตรวจสอบยังไม่มีการเดินทางไปประเทศที่ 3 ส่วน “จ่าฟาโร” ที่เป็น ผบ.หมู่งาน ป. ของ สภ.มูโนะ ที่ถูกกล่าวหาและมีข่าวในสื่อโซเชียลต่างๆ ได้เดินทางข้ามไปประเทศมาเลเซียแล้วเช่นกัน ซึ่งในส่วนของ “จ่าฟาโร” ยังไม่มีการแจ้งเอาผิด เพราะไม่มีพยานหลักฐาน เพียงแต่เป็นที่รู้กันของคนใน ต.มูโนะ ว่ามีหน้าที่ในการเก็บส่วยจากผู้ที่ค้าของผิดกฎหมายเท่านั้น

สำหรับตลาดชายแดนแห่งนี้ติดกับแม่น้ำสุไหงโก-ลก ฝั่งของประเทศมาเลเซียคือ เมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย การลำเลียงสินค้าผิดกฎหมาย ทั้งจากฝั่งไทยและฝั่งมาเลเซียใช้เรือเป็นพาหนะ และของผิดกฎหมายไม่ได้มีเพียงพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ แต่มีน้ำมันเถื่อนหนีภาษี บุหรี่หนีภาษี น้ำมันปาล์มหนีภาษี และสินค้าอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ส่วนที่เป็นสินค้าไทยที่ลักลอบหนีภาษีเข้าไปจะมีของกินของใช้ ซึ่งเป็นสินค้าที่ฝั่งมาเลเซียต้องการ

และของหนีภาษีทั้งของฝั่งไทยและฝั่งมาเลเซียจะมีการการจ่ายส่วยให้ “จ่าฟาโร” ตั้งแต่เดือนละ 500-200,000 บาท ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคา เช่น พลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ บุหรี่ และอื่นๆ ที่มีการลำเลียงเป็นข้ามไปเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ที่สำคัญในท่าข้ามทั้ง 2 แห่ง ในบริเวณหมู่บ้านมูโนะ มีทั้ง ทหาร ตำรวจ และ อส.ของฝ่ายปกครองทำหน้าที่รักษาความสงบ และในส่วนของฝั่งมาเลเซียมีเจ้าหน้าที่ของมาเลเซียรักษาการชายแดนเช่นกัน
.
สำหรับ สภ.มูโนะ เป็นตำบลชายแดนเล็กๆ แต่เป็นทำเลทอง เพราะเป็นทางผ่านของสินค้าหนีภาษี เส้นทางการค้ามนุษย์ และยาเสพติด จึงทำให้เจ้าหน้าที่มีการวิ่งเต้นมาทำหน้าที่ใน ต.มูโนะ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
.
และในพื้นที่ของ ต.มูโนะ การค้าขายประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุ ไม่ได้มีเฉพาะของ “เจ๊หลิน” กับ “เสี่ยไหว” แต่ยังมีผู้ค้ารายที่รองลงมาอย่าง “เฮียกิม” และ “นางแล” ซึ่งมีร้านค้าและที่เก็บดอกไม้ไฟอยู่ในพื้นที่เช่นเดียวกัน โดยในคืนที่เกิดเหตุ “เฮียกิม” และ “นางแล” ได้ทำการขนย้ายสินค้าออกจากพื้นที่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น
.
ผู้จัดการออนไลน์

ขุนคมคำ

error: ขอบคุณที่ติดตามครับ