White Channel

WORLD: เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางการอิรักประหารชีวิตด้วยการแขวนคอผู้ต้องสงสัยในข้อหาก่อการร้าย 11 คน นับเป็นกลุ่มที่ 2 ที่ถูกประหารชีวิตนับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน

.

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงยืนยันว่า การประหารชีวิตเกิดขึ้นที่เรือนจำอัล-ฮัต ในเมืองนาซิรียะหฺ ทางตอนใต้ ในจังหวัดดีการ์ ซึ่งยังมีผู้ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาก่อการร้าย อีก 11 คนเช่นเดียวกันเมื่อเดือนที่แล้ว

ภายใต้กฎหมายอิรัก ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายและการฆาตกรรมมีโทษถึงประหารชีวิต และคำสั่งประหารชีวิตจะต้องลงนามโดยประธานาธิบดี

.

การประหารชีวิตผู้ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานก่อการร้าย เมื่อวันที่ 22 เมษายน มีผู้ต้องหา 11 คน ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่กลุ่มสิทธิมนุษยชน โดยแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลประณามการขาดความโปร่งใสที่น่ากังวล

.

อัล-ฮัต เป็นเรือนจำที่มีชื่อเสียงในเมืองนาซิรียะหฺ เพราะชาวอิรักเชื่อว่าผู้ที่ถูกคุมขังที่นั่นไม่เคยมีชีวิตรอดออกไป เจ้าหน้าที่ความมั่นคงกล่าวว่าผู้ถูกประหารชีวิต 11 รายเมื่อวันจันทร์ถูกตัดสินลงโทษตามมาตรา 4 ของกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายของอิรัก

.

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในจังหวัดดิการ์กล่าวว่าแผนกของเขาได้รับศพชาย 11 ศพเพื่อส่งมอบให้กับญาติคนของพวกเขา และทุกคนเป็นชาวอิรัก ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาถูกตัดสินลงโทษ เช่นเดียวกับกลุ่มที่ถูกประหารเมื่อเดือนที่แล้วที่มีความเกี่ยวข้องกับไอซิสหรืออัลกออิดะหฺหรือไม่

.

ทั้งนี้ ศาลอิรักได้พิพากษาลงโทษประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิตผู้ต้องสงสัยหลายร้อยคนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสำหรับผู้ที่ถูกตัดสินว่าเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งเป็นความผิดที่มีโทษประหารชีวิต

อิรักถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการพิจารณาคดีที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนประณามว่าเป็นการรีบตัดสิน โดยที่บางครั้งคำรับสารภาพมักมาจากการถูกทรมาน ที่มา: Alarabiya

error: ขอบคุณที่ติดตามครับ